สภาพรถติดใน กทม. รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายจุดติดจากเช้าถึงค่ำยันดึก และไม่มีการดูแลจากผู้รับผิดชอบ สาเหตุมาจากการก่อสร้างต่างๆ ประกอบกับเข้าหน้าฝน มีฝนตกต่อเนื่อง การก่อสร้างมีการปิดถนน ลดพื้นที่จราจร แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือแจ้งเตือน ล่าสุด มีการวางแนวกั้นถนนเพื่อ ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ถนนลาดพร้าว กระทบเชื่อมโยงถึงถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนพระรามเก้า และถนนอื่นๆ
ในพื้นที่กรุงเทพฯใต้ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งตั้งคณะทำงานติดตามผล
การบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการจราจร โดยมีตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับ กทม.และส่วนราชการอื่น
นโยบายจากรองนายกฯ คือ ให้อำนวยความสะดวก ปรับและควบคุมไฟจราจรให้เหมาะสม เฉลี่ยรถในเส้นทางต่างๆ ไม่ให้ติดค้างสะสมยาวนาน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกและควบคุมตลอดเวลาโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน พร้อมทั้งมอบหมายให้ กทม.เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำและประสานกับผู้รับเหมาออกแบบและบริษัทที่ก่อสร้าง หารือทางออกร่วมกันอย่างต่อเนื่องให้การก่อสร้างกระทบกับการจราจรน้อยที่สุด โดยเฉพาะการปรับแนวกั้นถนนให้มีพื้นผิวการจราจรให้ได้มากที่สุด และขอความร่วมมือปรับผิวจราจรระหว่างก่อสร้าง ที่ชำรุด ไม่ราบเรียบในทุกเส้นทางควบคู่กันไป เพื่อมิให้รถต้องชะลอตัวและเกิดอุบัติเหตุบ่อยดังที่เป็นอยู่ รวมถึงกวดขันวินัยจราจร ดำเนินการกับกลุ่มที่ละเลยกฎหมาย โดยเฉพาะรถโดยสารและรถแท็กซี่ ที่มีพฤติกรรมขับแซงปาดหน้าและจอดกีดขวางการจราจร
จากนี้ไปก็คือการปฏิบัติอย่างจริงจังและกวดขันจากเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะตำรวจ และบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างที่ยึดพื้นผิวจราจรไปใช้ในการก่อสร้าง ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับสัญจรไปมาน้อยลง ซึ่งหากมีการปฏิบัติจริง น่าจะช่วยทุเลาปัญหาไปได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ทางราชการน่าจะสอดส่องความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องการจราจรในประเด็นอื่นๆ ไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟฟ้าที่มีการขัดข้องบ่อยๆ การให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงรถแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมไม่ยอมรับผู้โดยสาร เกิดการร้องเรียนบ่อยๆ แต่ยังไม่มีการแก้ไข
