ภาพเก่าเล่าตำนาน : วงแหวนแห่งไฟ….บรรลัยกัลป์ : พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

คําบอกเล่าคนโบราณนานมา เมื่อประสบเหตุแผ่นดินไหว พื้นดินฉีกขาดแยกออกจากกัน ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม ทะเลบ้า ความพินาศที่บังเกิดขึ้น มันเกิดมาจาก เจ้าปลาอานนท์ ที่นอนอยู่ใต้พิภพ ในป่าหิมพานต์

เล่าขานกันนานมาว่า “ปลาอานน” หรือ “ปลาอานนท์” นี่เป็นปลาที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสร้างโลกใหม่ๆ เป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้อง “แบกน้ำหนักของโลกไว้” ปลาอานนท์ มีลำตัวใหญ่โตโอฬาร หากวัดความยาวของปลาอานนท์ นี้นับได้เป็นพันๆ โยชน์

ปกติปลาอานนท์ จะนอนนิ่งสงบ มีหน้าที่แบกโลกไว้ เมื่อปลานอนมานาน ก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ จึงขอพลิกตัวบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบถที่ได้แบกโลกไว้ ก็เลยทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภัยพิบัติเหนือผิวโลก ใต้พื้นโลก ลมฟ้า อากาศแปรปรวน

นี่แหล่ะคือสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด

Advertisement

ความเชื่อที่หนักแน่น มั่นใจ เรื่องปลาอานนท์ใต้พื้นพิภพ ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ พื้นที่หลายแห่งบนโลกนี้ ประสบเหตุหายนะต่อหน้าต่อตา เรื่องของความน่ากลัวจากธรรมชาติ ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า มันคืออะไร เกิดจากอะไร เรื่องปลาอานนท์พลิกตัวจึงต้องเข้ามารับผิดชอบตอบคำถามมาหลายชั่วคน

เหตุอันเกิดจากแผ่นดินยุบ พื้นธรณีกลืนกินสิ่งต่างๆ ลงไปหายวับไปกับตา สรรพสิ่งพังทลาย ภูเขาพ่นไฟ หินเหลวเดือดไหลลงมาสังหารทุกอย่างที่ขวางหน้า ภูเขาพ่นเถ้าถ่านขึ้นไปบนฟ้าโลกมืดไร้แสงจากดวงอาทิตย์ เกิดขึ้นมาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่านานนับล้านปี ไม่มีใครตอบได้…

ในเมื่อมนุษย์พยายามคลำหาคำตอบ หาเท่าไรก็ไม่รู้ว่าเหตุแห่งความพินาศเกิดจากอะไร ก็ยกให้เป็นหน้าที่ของพระผู้เป็นเจ้า สวรรค์ นรก และโลกใต้บาดาล

Advertisement

คำกล่าวว่า “ธรณีพิโรธ” ยังเป็นคำกล่าวที่รับฟังได้ เพื่อจบประเด็น

ภาพเก่า..เล่าตำนาน ตอนนี้ขอนำเหตุการณ์แผ่นดินไหวขั้นร้ายแรงที่เกาะลอมบอก ในประเทศอินโดนีเซีย มาเป็นเหตุ เป็นหัวเชื้อ ชวนคุยครับ

31 ก.ค.2561 แผ่นดินไหวขนาด 6.4 ที่ความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเกาะลอมบอก อินโดนีเซีย เป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของเกาะนี้ โดยเกิดจากการดันตัวขึ้นของแผ่นเปลือกโลก นักวิชาการชี้อาจเกิดดินถล่มตามมาอีก เนื่องจากยังมีอาฟเตอร์ช็อกอยู่ในพื้นที่

นักธรณีวิทยาระบุว่า ลักษณะของแผ่นดินไหวเกิดจากการดันตัวขึ้นของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับแผ่นดินไหว ที่ทำให้เกิดสึนามิ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 26 ธ.ค.2547 เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเช้าวันนั้น ข้ามมากระแทกชายฝั่ง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ที่มีคนเสียชีวิตราว 5 พันคน

นักวิชาการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตำแหน่งของแผ่นดินไหวในครั้งนี้มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่บนเกาะมากกว่าในทะเลและขนาดแผ่นดินไหวไม่ใหญ่มาก จึงไม่ทำให้เกิดสึนามิ

ผู้เขียนเคยไปปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์ การหยุดยิงในจังหวัดอาเจะห์ (Aceh) ของอินโดนีเซียในปี พ.ศ.2548 นาน 8 เดือน และเคยได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวในขณะทำงาน เห็นภาพอาคาร บ้านเรือนที่พังพินาศ สัมผัสกับสภาพพื้นดินที่เขย่า เห็นภาพมอเตอร์ไซค์ที่ล้มลงนาทีที่แผ่นดินขยับ ยังมีความฝังใจกับ “พลังแห่งการทำลายล้างของแผ่นดินไหว” ที่ทรงพลานุภาพ ไร้ความปรานีแบบมิรู้ลืม…

เลยตั้งประเด็นสงสัยว่า ทำไมจึงเกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซียบ่อยครั้ง แผ่นดินไหวครั้งที่ร้ายแรงเขย่าโลกจนเกือบทำให้จังหวัดอาเจะห์หายไปจากแผนที่โลกคือ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แผ่นดินไหวขนาด 9.0 แล้วตามด้วยสึนามิที่กลืนชีวิตชาวอาเจะห์ในขณะที่นอนหลับ ถูกคลื่นยักษ์กวาดลงทะเลไปราว 2 แสนคน

ขอนำเกร็ดความรู้ เรื่องของ วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) มาเผยแพร่ครับ

นักวิทยาศาสตร์ นักธรณีวิทยา ทำงานอย่างหนักมานับทศวรรษเพื่อหาสาเหตุของแผ่นดินไหว จึงค้นพบวงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire) บนโลกใบนี้อยู่ในเขตอาณามหาสมุทรแปซิฟิก เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง

วงแหวงแห่งไฟ มีลักษณะเป็นรูปเกือกม้า ความยาวรวมประมาณ 40,000 กิโลเมตร และวางตัวตามแนวร่องสมุทร แนวภูเขาไฟและบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก (ดูภาพประกอบ)

มีภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ภายใน “วงแหวนไฟ” ทั้งหมด 452 ลูก และเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟที่คุกรุ่นอยู่กว่าร้อยละ 75 ตั้งอยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟนี้

แผ่นดินไหวราวร้อยละ 90 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและกว่าร้อยละ 80 ของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิดขึ้นในบริเวณวงแหวนไฟ

นอกจากวงแหวนไฟ ยังมีแนวแผ่นดินไหวอีก 2 แห่ง ได้แก่ แนวเทือกเขาอัลไพน์ ซึ่งมีแนวต่อมาจากเกาะชวาสู่เกาะสุมาตรา ผ่านเทือกเขาหิมาลัย และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แนวแผ่นดินไหวแห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นร้อยละ 17 ของทั้งโลก และอีกแห่งคือ แนวกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นร้อยละ 5-6 ของทั้งโลก

นี่เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบ และตอบคำถามส่วนหนึ่งได้ ว่าทำไมภูเขาไฟ แผ่นดินไหว จึงเกิดขึ้นบ่อยในอินโดนีเซีย

อินโดนีเซีย เป็นหมู่เกาะ มีเกาะเล็กเกาะน้อยรวมกันราว 17,508 เกาะ เกือบทั้งประเทศนี้ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ

ใต้พื้นพิภพโลกเรานี้ มีแผ่นดินที่เป็นเปลือกโลก ซ้อนกัน เกยกัน ขี่กัน ขบกัน เมื่อเปลือกโลกใต้พิภพที่ลึกลงไปเกิดการขยับ จึงเกิดแผ่นดินไหว

ก็เป็นสิ่งที่คล้ายๆ กับคำอธิบายการขยับตัวของปลาอานนท์

มาตรวจดูรายชื่อประเทศที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟครับ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลอมเบีย ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก เอลซัลวาดอร์ ฟิจิ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก นิวซีแลนด์ นิการากัว ปาปัวนิวกินี ปานามา เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย หมู่เกาะโซโลมอน สหรัฐอเมริกา…

ประเทศเหล่านี้ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภัยพิบัติ แต่ก็มีมาตรการที่จะรับมือกับภัยพิบัติทั้งหลาย ที่ช่วยได้มากที่สุด คือระบบการเตือนภัยที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่พอจะบอกล่วงหน้าได้บ้าง เช่น กรณีภูเขาไฟ รินจานี ( Rinjani) ตั้งอยู่ที่เกาะลอมบอก ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ใกล้ๆ เกาะบาหลี อินโดนีเซีย

ประเทศไทย ถือว่าที่โชคดีที่บรรพบุรุษพากันมาปักหลักตรงนี้ ประเทศไทยไม่ค่อยประสบพบเจอภัยพิบัติธรรมชาติที่ร้ายแรง ไม่มีภูเขาไฟระเบิด ไม่มีแผ่นดินไหว (แบบรุนแรง) ซึ่งเพื่อนบ้านทั้งอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดนแรงระเบิดของภูเขาไฟระเบิดเล่นงานสูญเสียนับครั้งไม่ถ้วน

มีบันทึกอย่างเป็นทางการเรื่องหายนะจากภูเขาไฟที่สะท้านสะเทือนโลกที่เกิดขึ้นใกล้ประเทศไทย คือ 12 เมษายน 2358 ภูเขาไฟตัมโบรา เกาะซุมบาวา (Tambora Sumbawa Island) ในอินโดนีเซีย ที่ระเบิดสะท้านปานโลกแตกในปี พ.ศ.2358 (ตรงกับรัชสมัยในหลวง ร.3) ถือว่าเป็นหายนะอันดับ 1

เมื่อ ตัมโบรา พิโรธ เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสารทิศ ดังไปจนถึงเกาะสุมาตราที่อยู่ไกลราว 2 พันกิโลเมตร ภาพของการระเบิด สร้างหมอกเถ้าถ่านปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ตันโบราที่เดือดจัด พ่นเถ้าถ่าน แหวกอากาศขึ้นสู่ท้องฟ้าติดต่อกัน 2 วัน

พื้นที่รอบๆ ภูเขาไฟที่ห่างออกไปนับพันกิโลเมตร พลันตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิด บนท้องฟ้าฟุ้งกระจายด้วยเถ้าถ่านที่ร้อนจัดจากใต้ผิวโลกไปปิดบังแสงอาทิตย์ จนทำให้กลางวันกลายเป็นกลางคืนในพริบตา ความรุนแรงครั้งนั้นแทบจะทำลายล้างโลกได้

ภูเขาไฟตัมโบราตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ การระเบิดครั้งนั้นส่งผลกระทบไปทั่วทุกมุมโลก ในยุโรปและอเมริกาเหนือต้องตกอยู่ในสภาพไม่มีแสงแดดในเวลากลางวันเป็นสัปดาห์ สภาพอากาศในโลกนี้แปรปรวนไปหมด

ฝุ่นจากภูเขาไฟตัมโบรามหาวินาศ ใช้เวลาหลายปีกว่าจะจางหายไปจากท้องฟ้า และตกลงสู่พื้น ส่วนเรื่องความสูญเสียไม่ต้องพูดถึง เพราะมียอดผู้เสียชีวิตสูงราว 1 แสนคน

ความสัมพันธ์ เชื่อมโยง ระหว่างแผ่นดินไหวกับการระเบิดของภูเขาไฟ ทางนักวิชาการก็ยังชี้ชัดไม่ได้

ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในวงแหวนไฟ เช่น ภูเขาไฟบียาร์รีกา ประเทศชิลี ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยเกิดการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2523 ได้พ่นเถ้าถ่านออกมากว่า 1.2 ลูกบาศก์กิโลเมตร

คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ผ่านมากว่า 1 ล้านคน สถานที่ที่เจาะจงต้องขอไปเยือนยลไปถ่ายภาพ คือ ภูเขาไฟฟูจิ ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิที่แสนงามยังไม่สงบ ภูเขาไฟฟูจิเป็นรอยเชื่อมต่อของเปลือกโลก 3 ระดับที่มาบรรจบกัน

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าฟูจิแสนงามจะระเบิดเมื่อใด แต่นี่ก็คือหนึ่งในสภาพธรรมชาติของเกาะญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มนุษย์พยายามศึกษาธรรมชาติ และหาทางรับมือมัน

ญี่ปุ่นก็เป็นอีก 1 ประเทศที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟเต็มๆ

ดินแดนของอเมริกาที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟก็มีนะครับ

18 พฤษภาคม พ.ศ.2523 เวลา 08.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น (เขตเวลาแปซิฟิก) ภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ (Mt. St. Helens) ในรัฐวอชิงตัน ตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นดินลุงแซม เกิดระเบิดครั้งรุนแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ภัยพิบัติทางภูเขาไฟที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้น 57 ราย บ้านเรือน 250 หลัง สะพาน 47 แห่ง ทางรถไฟยาว 24 กม. และทางหลวงยาว 298 กม. ถูกทำลาย การระเบิดทำให้เกิดแผ่นดินถล่มขนาดใหญ่ในอเมริกา

ยอดเขาที่สูง 2,950 เมตร ระเบิดหายไปเหลือ 2,550 เมตร และปล่องภูเขาไฟเปลี่ยนรูปกลายเป็นรูปคล้ายเกือกม้า แผ่นดินที่ถล่มลงมามีปริมาตรมากกว่า 2.9 ลูกบาศก์กิโลเมตร หลังจากนั้นได้มีการก่อตั้งอนุสาวรีย์แห่งชาติภูเขาไฟเซนต์เฮเลนส์ ขึ้นมา เพื่อปกป้อง อนุรักษ์ภูเขาไฟ และให้เป็นที่ศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับภูเขาไฟ

นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ล้วนมีผลมาจากการเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ ทั้งบนบก ทะเล และใต้พื้นดินที่เชื่อมต่อกัน มีโอกาสประสบกับภัยธรรมชาติมากที่สุด

ข้อมูลที่เราอยากทราบ คือ ภูเขาไฟบริเวณใดที่ยังคุกรุ่น ร้อนแรงมากที่สุด นักวิทยาศาสตร์ตอบว่า ภูเขาไฟแถบตะวันตกของวงแหวนแห่งไฟทางด้านตะวันตกของวงแหวงแห่งไฟ ตั้งแต่คาบสมุทรคัมชัตคา (Kamchatka Peninsula) ในรัสเซีย ลากไปเกาะญี่ปุ่น ไปทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงไปถึงนิวซีแลนด์

ภูเขาไฟรัวเปฮู (Mount Ruapehu) สูง 2,797 เมตร บนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ เป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่นที่สุดในซีกโลกใต้ มีสถิติการปะทุขึ้นมาในวงรอบทุก 50 ปี

ภูเขาไฟกะรากะตัว (Krakatoa) ในอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านของไทย เคยเขย่าโลกให้สะเทือนไปถึงเกาะอังกฤษ

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2426 เวลา 10.00 น. กะรากะตัว เกิดระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด ทำลายทุกชีวิตบนเกาะ พื้นที่ร้อยละ 65 ของเกาะกลายเป็นเถ้าธุลีลอยสูงขึ้นไปถึง 80 กิโลเมตร เถ้าธุลีพุ่งขึ้นไปบดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิดคล้ายตอนกลางคืน เสียงระเบิดดังกึกก้องไปราว 150 กม.

มีบันทึกว่าแรงสะเทือน และเสียงกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพฯ ท้องฟ้ามืดครึ้มอยู่หลายวัน แรงระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูงกว่า 30 เมตร คลื่นยักษ์เดินทางไปถล่มเกาะหลายแห่งพินาศ แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตรวจจับได้ถึงเกาะอังกฤษ รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 36,000 คน

มีบันทึกของพระองค์เจ้าดิศวรกุมารที่ต่อมาทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงบันทึกว่า…

“…เมื่อข้าพเจ้าบวชอยู่วัดนิเวศน์ฯ…เวลาบ่าย ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่ตำหนักได้ยินเสียงดังเหมือนยิงปืนใหญ่ไกลหลายนัด นึกในใจว่าคงยิงสลุตรับแขกเมืองที่เข้ามากรุงเทพฯ…

…ครั้นรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง เห็นแสงแดดเป็นสีเขียวตลอดวัน คนทั้งหลายพากันพิศวงทั่วไปในท้องถิ่น ที่ตื่นตกใจก็มี แต่ในวันต่อมาก็กลับเป็นปกติตามเดิม เป็นหลายวันจึงทราบข่าวว่าภูเขาไฟระเบิดที่เกาะกระกะเตา… คนตายหลายหมื่น เสียงภูเขาไฟระเบิดและไอที่ออกบังแสงแดด ทั้งละลอกน้ำในท้องทะเลแผ่ไปถึงนานาประเทศไกลกว่าที่เคยปรากฏมาแต่ก่อน…

…ในครานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ในหลวง ร.5: ผู้เขียน) แลสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาราชเทวี ได้โปรดเกล้าพระราชทานเงิน เป็นเงินหลวง 100 ชั่ง ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาราชเทวีทรงสมทบอีก 50 ชั่งรวมเป็นเงิน 150 ชั่ง ให้แก่คนที่ได้ความทุกข์ยากด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้….”

วงแหวนแห่งไฟ…ไม่น่าจะใช่ปลาอานนท์พลิกตัวนะครับ…

ข้อมูลจาก : National Geographic News: Deadly Java Quake Highlights Ring of Fire Dangers ภาพจาก abc news

พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image