เหยี่ยวถลาลม : ฟังไม่เข้าหู-ดูไม่เข้าตา

ปลายสมัยของเผด็จการทุกรายดูเหมือนเหตุการณ์จะขมวดปมชี้ชวนให้เข้าใจว่า ที่ผ่านมาล้วนเป็นเพียง “ข้ออ้าง” สำหรับการยึดอำนาจ
“การทุจริตคอร์รัปชั่น” ก็เป็นเงื่อนปมหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ไม่น้อยกว่าครึ่งศตวรรษ จากยุคของคนรุ่นหนึ่ง ไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง
ที่ “พิลึก” และยากจะเข้าใจสำหรับสังคมไทยคือ ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่ง “เชื่อทุกครั้ง”
ความจริงแล้วสังคมไทยมีเรื่องที่ไม่ได้สะสางกันอย่างเอาการเอางานเรื่องหนึ่งคือ “ระบบยุติธรรม”
คล้ายกับว่ามาตรฐาน คงเส้นคงวา มีสาระ แต่ไม่เป็นโล้เป็นพาย
กล่าวคือ ยังหามาตรฐานที่แท้จริงไม่ได้
นักเรียนกฎหมายหยิบยืมตำรามาเรียนก็กะเทาะได้แค่เปลือกนอก ไปไม่ถึงแก่น เข้าใจไม่ถึงราก ไม่ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณ พอมีความรู้อยู่บ้างแค่หางอึ่งก็อ้างความศักดิ์สิทธิ์ชนิดที่แตะต้องไม่ได้ อวดโอ่ศักดิ์ศรีจนเกินคุณงามความดี
จุดสุดท้ายของความทะนงเป็นได้ก็แค่ “กระสุน”
ในทางการเมือง ตราบเท่าที่ระบบยุติธรรมยังไม่ได้รับการชำระสะสาง “อำนาจนิยม” ก็ยังคงเหนือกว่า “ปัญญา” สิทธิเสรีภาพถูกย่ำยี คุกคาม ละเมิดภายใต้ข้ออ้างความมั่นคงของคนกลุ่มหนึ่ง
จึงจะมีแต่ชนชั้นที่สูงกว่า มีแต่พวกที่มีอำนาจมากกว่า หรือมีแต่พวกที่มือยาวกว่าเท่านั้นที่สามารถครอบครองความถูกต้อง
ดังกรณีทุจริตทั้งหลายนั้น จะมีแต่ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นที่ทุจริตคอร์รัปชั่น มีแต่พวกอื่น ผู้อื่นที่ทุจริตคดงอ ถลุงเงินของแผ่นดิน
ทั้งๆ ที่พฤติการณ์พวกเดียวกันปรากฏชัดว่ามุบมิบ หมกเม็ด ดื้อด้าน ไม่มีหิริโอตตัปปะ ไม่สนใจไยดีคำชี้แนะ คำเตือน หรือเสียงคัดค้าน ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยหน้าที่ทั้งหลายที่คล้ายทาสก็หาทางช่วยนาย ผ่อนหนักให้เป็นเบา ที่บางๆ ก็ปัดเป่าจนหายวับไปกับตาราวกับใช้เวทมนตร์คาถา
สะท้อนให้ผู้คนทั่วไปได้กระจ่างว่า โทษของผู้อื่นนั้นเท่าภูเขา แต่ถ้าเป็นโทษของตัวเราหรือพวกเรา “เท่าเส้นผม” ใครจะวิจารณ์ชี้แนะอย่างไรก็ไม่ใส่ใจ ถือดีหลงตัวมัวเมาในอัตตา
ช่างไม่เฉลียวกันบ้างเลยว่า อำนาจวาสนาเหมือนหมาเน่า ลอยน้ำผ่านมา เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไป !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image