คุณโผงฟ้องคุณจำนูญต่อศาล ขอให้บังคับคุณจำนูญออกจากตึกแถว และให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง
ระหว่างคดี ทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ว่าคุณจำนูญยินยอมชำระค่าเช่าที่ค้าง 92,000 บาท ให้หมดภายใน 1 ปี โดยชำระไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 บาท และคุณโผงจะไม่ขึ้นค่าเช่าภายใน 1 ปี แต่หากผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้คุณโผงบังคับคดีได้ทั้งหมดทันที
ต่อมาคุณจำนูญผิดนัดชำระค่าเช่าตามสัญญาที่ทำไว้
คุญโผงยื่นขอหมายบังคับคดี แล้วยื่นคำร้องขอ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขับไล่คุณจำนูญออกจากตึกที่เช่า แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่บังคับให้ โดยให้เหตุผลว่า สัญญาประนีประนอมยอมความไม่ได้พูดเรื่องขับไล่คุณจำนูญ อำนาจเจ้าพนักงานบังคับคดีมีเพียงบังคับยึดทรัพย์เท่านั้น จึงให้ยกคำร้องของคุณโผง
คุณโผงยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำสั่ง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดี บังคับคดีขับไล่คุณจำนูญด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดี โดยขับไล่คุณจำนูญและบริวารตามคำร้องของคุณโผง และยึดทรัพย์คุณจำนูญเพื่อชำระหนี้แก่คุณโผง
คุณจำนูญอุทธรณ์คดี ศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษายืน
คุณจำนูญฎีกาคดี
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ตามคำฟ้องของคุณโผง ขอให้บังคับคุณจำนูญ 2 กรณี คือ ขับไล่และเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระ แต่เมื่อคุณโผงและคุณจำนูญตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลชั้นต้น ระบุข้อสัญญาตามข้อ 1. ถึงข้อ 3. เพียงให้คุณจำนูญชำระค่าเช่าที่ค้างชำระ อัตราค่าเช่าที่จะต้องชำระ และสถานที่ชำระค่าเช่า ส่วนข้อ 4. ระบุว่า หากคุณจำนูญผิดนัดชำระแม้แต่งวดใดงวดหนึ่ง ถือว่าผิดนัดทั้งหมด ให้คุณโผงบังคับคดีได้ทันที แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เป็นข้อสัญญา ให้คุณโผงบังคับคดีในส่วนค่าเช่าที่คุณจำนูญผิดนัดชำระเท่านั้น
เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายสามารถระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน และผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน ตามมาตรา 850 และ 852 ตามลำดับ
ดังนั้น การที่คุณโผงและคุณจำนูญทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยไม่ได้ระบุถึงกรณีขับไล่ไว้ด้วย ย่อมถือได้ว่า คุณโผงยอมสละข้อเรียกร้องในส่วนนี้แล้ว
เมื่อคุณจำนูญผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ คุณโผงจึงมีสิทธิเพียงแต่ขอให้บังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้น จะย้อนกลับไปขอให้บังคับขับไล่คุณจำนูญและบริวารตามฟ้องซึ่งไม่ได้ระบุในสัญญาประนีประนอมยอมความหาได้ไม่
ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่บังคับคดีให้ และมีคำสั่งให้ยกคำร้องของคุณโผงนั้นชอบแล้ว
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของคุณโผง
คุณโผงถึงได้กระจ่างในใจ ว่าต่อไป การจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำต้องอ่านโดยใคร่ครวญอย่างรอบคอบ จะรีบๆ ลวกๆ ไม่ได้เลยเชียว
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9387/2556)
————————–
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 850 อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น คือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่ หรือ จะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน
มาตรา 852 ผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ย่อมทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไป และทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญานั้นว่าเป็นของตน
โอภาส เพ็งเจริญ [email protected]
