การเมืองสร้างสรรค์เดินหน้าประชาธิปไตย โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

พรุ่งนี้ 13 ตุลาคม 2561 วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากรุณาธิคุณจารึกในใจตราบกาลนิรันดร์ ข้าพระพุทธเจ้าพสกนิกรไทย

ห้วงเวลาแห่งการเริ่มต้นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หลังการยึดอำนาจของรัฐบาลจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยไปเป็นอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติรวมเวลากว่า 4 ปี

บัดนี้ ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 และมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่นำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้งภายในปีหน้า 2562 เพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบบรัฐสภามีรัฐบาลจากอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยอีกครั้ง

ไม่ว่าพระราชบัญญัติการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร วันนี้นักการเมืองต้องนำพรรคการเมืองเดินหน้าให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเพื่อไปสู่การเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดขึ้น

Advertisement

วันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติครบแล้วทั้ง 7 คน แม้ยังอยู่ในการนำเสนอผ่านการรับรองของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก 2 คน หลังสุด ได้แก่ นายฐิติเชฏฐ นุชนาฏ ทนายความ กับนายเลิศวิโรจน์ รัตนะ อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เชื่อว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติน่าจะให้การรับรองกรรมการการเลือกตั้งทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่เพื่อให้ครบองค์คณะ แต่พิจารณาจากความเหมาะสมและเป็นกลางทางการเมือง จะได้ปฏิบัติเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นกลาง โปร่งใส ดังปรารถนาของคนไทย

ระหว่างนี้ หวังว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองจะเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยตามกฎหมายกำหนด แม้ในทางการเมือง ฝ่ายรัฐบาลวันนี้จะจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อหวังสืบทอดอำนาจเช่นเดียวกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งต้องการให้ประชาชนเลือกตนและพรรคตนเข้าไปเป็นรัฐบาลอีกครั้ง

Advertisement

การได้เปรียบเสียเปรียบที่ฝ่ายนักการเมืองซึ่งมิได้เป็นรัฐบาล น่าจะเป็นเช่นเดียวกับฝ่ายค้านที่เมื่อมีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเกิดจากการครบวาระหรือจากการยุบสภา ผู้เป็นรัฐบาล ณ ขณะนั้นยังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เนื่องจากประเทศจะขาดรัฐบาลมิได้

เพียงแต่ความเหมาะสมบางประการควรจะเกิดขึ้นกับผู้เป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี หรือผู้มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งฝ่ายรัฐบาลจัดตั้งขึ้น ต้องไม่ดำเนินการใดอันเป็นการหาเสียงกับประชาชนตามกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิด เช่นการนำงบประมาณสร้างวัตถุถาวร การใช้งบประมาณแก้ปัญหาที่ไม่ใช่ความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของประชาชน เช่นเกิดเหตุฉับพลัน หรือถึงเวลาต้องจ่ายงบประมาณนั้น ต้องเป็นการจ่ายตามวาระและในจำนวนที่กำหนดไว้เดิม ไม่เป็นการเพิ่มขึ้นจะโดยเหตุใดก็ตาม

ส่วนการเสาะหาสมาชิกให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของตน เป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมืองเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่สามารถทำได้ เพราะการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือย้ายพรรคการเมืองขณะที่ยังไม่มีการเลือกตั้งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แม้เมื่อเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นแล้ว อาจย้ายออกจากพรรคการเมืองนั้นไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้ ไม่เป็นการผิดกฎหมายแต่อย่างใด

วันนี้ การโฆษณาพรรคการเมืองของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ นโยบาย น่าจะเริ่มดำเนินการได้ ด้วยเวลาที่มีอยู่จำกัด เพื่อให้ประชาชนได้รู้ถึงอุดมการณ์และนโยบายของพรรคการเมืองนั้น หากไม่ใช่เป็นการสัญญาว่าจะทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ เพียงแต่ว่าโดยกว้างๆ เช่นกล่าวถึงผลทางเศรษฐกิจทุกวันนี้ว่าเป็นอย่างไร เกิดจากเหตุใด แต่ไม่เป็นการกล่าวร้ายให้กับผู้เป็นรัฐบาลขณะนี้ว่าเป็นผู้กระทำ หรือโยนกลองให้รัฐบาลที่ผ่านมาเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้น

ถึงเวลาแล้วที่พรรคการเมือง นักการเมือง ควรชี้แจงหรือจูงใจให้ประชาชนเห็นด้วยกับการเมืองที่สร้างสรรค์ นำพาระบอบประชาธิปไตยไปสู่ความอยู่ดีกินดี และสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลังการเลือกตั้งครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image