เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ “ดร.พานิช เหล่าศิริรัตน์” ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับ “ความสำคัญของผลิตภาพ” (การเพิ่มผลผลิต) เพราะผมเชื่อมานานแล้วว่า ผลิตภาพ (Productivity) จะเป็นปัจจัยหลักของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับบุคคล ระบบเศรษฐกิจ และการบรรลุ “ยุทธศาสตร์ของชาติ” อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.พานิช เหล่าศิริรัตน์ ได้ย้ำว่า “ยุทธศาสตร์ชาติ” ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมีรายได้คือ ต้องมีรายได้ต่อประชากร US$ 12,000 ภายในปี พ.ศ.2580 (จากปัจจุบันที่รายได้ต่อประชากรเพียง US$ 6,500) คือเป็นการเพิ่มขึ้นเท่าตัว ดังนั้น เศรษฐกิจประเทศไทยจะต้องเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 5% แสดงว่าประเทศไทยต้องเติบโตโดยใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด หรือเป็นการเติบโตที่ใช้ต้นทุนให้น้อยที่สุดที่เรียกว่า “เติบโตด้วยผลิตภาพ”
ทุกวันนี้ ผมว่าเรายังมีปัญหาที่เข้าใจไม่ตรงกันเกี่ยวกับนิยามของคำว่า “ผลิตภาพ” และคำอื่นๆ ที่จะนำไปสู่การประยุกต์ปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป
คำว่า “ผลิตภาพ” (Productivity) หมายความว่า ความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อให้ได้ผลผลิตหรือผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นเป็นที่ต้องการของลูกค้า ผู้บริโภค หรือประชาชนโดยคำนึงถึงการใช้ระบบมาตรฐาน ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมของกระบวนการหรือผลิตภัณฑ์การพัฒนาคน การบริหารจัดการภาครัฐเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในระดับองค์การและประเทศ
“ประสิทธิภาพ” หมายความว่า ความสามารถ ในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่มีความสูญเปล่า สิ้นเปลือง
“ประสิทธิผล” หมายความว่า ความสามารถ ในการบรรลุผลตามแผนงานหรือเป้าหมาย โดยที่ผลผลิตที่ได้ถูกต้องตรงตามความต้องการทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
ดังนั้น แนวทางการเพิ่มผลิตภาพของประเทศ จึงควรจะดำเนินการพร้อมๆ กันใน 3 ด้าน คือ
(1) การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคลากร องค์กร และประเทศ
(2) การส่งเสริมให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ (Value Added) ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
และ (3) รัฐต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเพิ่มผลิตภาพ
ทุกวันนี้ “ผลิตภาพ” จึงเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมาย “ประเทศไทย 4.0” ซึ่งเป็นยุคที่ธุรกิจอุตสาหกรรมต้องสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” ด้วย “เทคโนโลยี” และ “นวัตกรรม”
ปัจจุบันหลายท่านให้ความหมายคำว่า “ผลิตภาพ” อย่างเข้าใจได้ง่ายๆ ว่า “ทำน้อยได้มาก” ครับผม !
วิฑูรย์ สิมะโชคดี