ปัจจุบันบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกนำแนวคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน” หรือ “Circular Economy” มาใช้ในการบริหารงานและการผลิต เพื่อร่วมกันตอบโจทย์ลดภาวะโลกร้อน
หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน คือการบริหารจัดการที่เน้นการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เกิดประโยชน์สูงสุด อะไรที่ใช้แล้วก็ใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้นำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล ขณะเดียวกันการดำเนินกิจกรรมอะไรก็ตามต้องมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
ได้เห็นกันบ้างแล้วกับสินค้าแบรนด์ดังของโลก ที่นำวัสดุจากการรีไซเคิลมาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้า อย่าง “อาดิดาส” ที่ผลิตรองเท้าจากขยะและอวนจับปลาในทะเล หรือ “ไนกี้” ที่กำหนดว่าเสื้อผ้าและรองเท้า 71% ต้องทำมาจากวัสดุรีไซเคิล
ส่วนในไทยก็มีหลายบริษัทที่เริ่มใช้แนวเศรษฐกิจหมุนเวียน อย่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ “จีซี” ที่นำมาประยุกต์ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยชูแคมเปญการดำเนินชีวิตแบบหมุนเวียน หรือ “Circular Living”
ใช้ทั้งการบริหารทรัพยากร กระบวนการผลิต การบริโภค การบริหารจัดการขยะ และอื่นๆ โดยยึดหลัก 5Rs นั่นคือ Reduce (ลดการใช้ที่ไม่จำเป็น) Reuse (นำกลับมาใช้ใหม่) Recycle (นำขยะ-ของที่ใช้แล้วมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง), Renewable (การกลับสู่สภาพเดิม) และ Refuse (ลดขยะ)
อย่างโครงการลดปริมาณของเสียไปฝังกลบให้เป็น “0” ด้วยการลดปริมาณการเกิดของเสีย และเปลี่ยนวิธีกำจัดของเสียจากวิธีฝังกลบเป็นวิธีอื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยมีเป้าหมายที่จะลดปริมาณการใช้พลาสติกชนิดใช้แล้วทิ้งเช่น ถุงจากจำนวน 1.5 แสนตันต่อปี ให้เหลือ “0” ตันภายใน 5 ปี
ขณะเดียวกันก็เตรียมลุยดำเนินธุรกิจพลาสติกรีไซเคิล ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาและการหาพันธมิตรร่วมลงทุนโรงงานรีไซเคิลพลาสติกครบวงจรมาตรฐานสากลระดับโลก ในนิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง คาดว่าต้นปีหน้าจะมีความชัดเจน
ก่อนหน้านี้ เริ่มนำร่อง “อัพไซคลิ่ง” หรือการสร้างมูลค่าให้เศษวัสดุไปแล้ว จากโครงการ Upcycling the Oceans, Thailand ที่นำขยะพลาสติกจากทะเลที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง และ จ.ภูเก็ต กว่า 20 ตัน
จากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการอัพไซคลิ่ง โดยใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์แปลงร่างจากขยะพลาสติก กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นและกระเป๋าสุดเท่
ล่าสุด “จีซี” ร่วมกับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด จัดงาน “Circular Living Festival” โดยนำกล่องใส่ซีดี ที่ปัจจุบันแทบไม่มีใครฟังเพลงจากซีดีกันใช้แล้ว จึงเอามาทิ้งกันจำนวนมาก ก็นำมาทำเป็นต้นคริสต์มาส สูง 10 เมตร กว้าง 5 เมตร ที่ลานดิสคัฟเวอรี่พลาซ่า ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่
หลังจบงานก็นำกล่องใส่ซีดีไปแปรรูปเป็นถังขยะ ส่วนเศษพลาสติกที่เหลือจะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป
เป็นเพียงตัวอย่างย่อๆ ของเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ช่วยดูแลสิ่้งแวดล้อมของโลก
ทว่า องค์กรธุรกิจต่างๆ ของไทยยังไม่กล้าทำตามแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะกลัวว่าต้องลงทุนเพิ่ม ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทลดลง
แต่ “จีซี” ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วว่าการยึดแนวเศรษฐกิจหมุนเวียนก็ทำกำไรได้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของ “จีซี” ในไตรมาส 3/2561 มีรายได้จากการขายรวม 136,712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน และขยายตัวเพิ่มถึง 31% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2560
ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2561 มีถึง 12,793 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2560
รวมในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิถึง 36,008 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าการทำธุรกิจโดยยึดแนวเศรษฐกิจหมุนเวียน ก็มีกำไรได้ แถมมากกว่าเดิมด้วย…เหมาทั้งเงินและกล่อง
สัญญา รัตนสร้อย