เข้าให้ถึง โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงแล้วว่า ภายหลังการเลือกตั้ง จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ถือว่า เป็นข่าวมงคลที่สร้างความยินดีให้กับประชาชนอย่างล้นพ้น

ส่วนการเลือกตั้ง ก็คงจะปักหมุดอยู่ประมาณเดือน ก.พ. ส่วนจะเป็นวันที่ 24 ก.พ.หรือบวกลบอย่างไร น่าจะเกิดความชัดเจนหลังวันที่ 11 ธ.ค. ที่ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้

ระยะนี้ จะเห็นว่าข่าวสารการเมืองมีมากขึ้นและต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้งที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

Advertisement

บางข่าวอาจจะเป็นการแสดงความคิดความเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ที่ดุเดือดร้อนแรง ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นเรื่องของการเมืองที่ผู้คนย่อมคิดไม่เหมือนกัน

จะเอาทรรศนะว่า ประเทศนี้ต้องเงียบ ต้องคิดเหมือนกัน ถึงจะได้ชื่อว่า “สงบ” มาเป็นหลักเกณฑ์ไม่ได้ และถ้าเริ่มต้นด้วยทรรศนะนี้ ไม่มีที่ไหนในโลกสงบ คงต้องทำปฏิวัติรัฐประหารกันทุกวัน

ที่น่าสนใจอย่างมากคือ การที่หลายพรรคก็เริ่มออกเดินแนะนำตัว ถามไถ่ทุกข์สุขประชาชน

Advertisement

การออกเดินพบปะประชาชนลักษณะนี้ เป็นเรื่องปกติของนักการเมืองจากอดีตถึงปัจจุบัน เพราะจะได้รู้ว่าชาวบ้านร้านตลาดเขาอยู่กันยังไง ยากลำบากหรือสุขสบาย

เศรษฐกิจปากท้องของผู้คนเป็นยังไงก็วัดกันจากชีวิตจริง ส่วนตัวเลขของหน่วยงานต่างๆ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง

แกนนำบางพรรคออกเดินหน้าดำคร่ำเครียด โดนด่าบ้าง ชมบ้าง เดินสายไปหลายภาคแล้วมาให้สัมภาษณ์ว่าเศรษฐกิจตอนนี้ย่ำแย่

อย่างนี้เป็นเรื่องที่ต้องฟังเหมือนกัน

อีกหลายพรรคที่ลงพื้นที่แล้ว ไปพบปะประชาชนมาแล้ว ก็พูดทำนองเดียวกัน

ในเรื่องนี้ พรรคในสายของรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญต้องลงพื้นที่จริงๆ จังๆ ถอดหัวโขน พิธีกรรมต่างๆ เข้าให้ถึงชีวิตจริงของประชาชน

การลงพื้นที่ทำได้หลายแบบ ถ้าให้หน่วยราชการไปจัด กลิ่นผักชีและผงปรุงรส จะเยอะหน่อย

ถ้าเป็นแบบนั้น ประชาชนที่มาต้อนรับ จะถือว่ามารับแขก ก็ต้องเป็นเรื่องของปิยวาจาและภาษาดอกไม้

แต่ถ้าถึงขนาดตั้งพรรคการเมืองแล้ว การลงไปสัมผัสประชาชนแบบฝ่าดงผักชีไปสัมผัสเนื้อแท้ สัมผัสความคิดความรู้สึกที่แท้จริงไม่น่าจะเกินความสามารถ

ถ้าขาดตรงนี้ไป บทบาทการเมืองจะไม่สมบูรณ์

หากจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้ประชาชน
แล้วยังเข้าไม่ถึงประชาชนตัวจริง

นั่นคืออีกปัญหาที่น่าห่วง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image