บทนำ 10 ธ.ค.61 : สัญญาณดีขึ้น

การประชุมระหว่าง คสช., คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. และพรรคการเมืองต่างๆ 75 พรรค เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิดขึ้นหลายประการ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนในวันที่ 24 ก.พ.2562 โดยวันที่ 2 ม.ค.2562 จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมาเริ่มต้นการหาเสียง การเปิดรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จะมีขึ้นระหว่าง 14-18 ม.ค.2562 พรรคต่างๆ ต้องเสนอชื่อ บุคคล 3 คนที่จะสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อ กกต.ในห้วงเวลาดังกล่าวด้วย

การเมืองไทยจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประชาชนทั้งประเทศจะต้องออกมาใช้สิทธิเลือกผู้แทนราษฎร ผลการเลือกตั้ง 24 ก.พ.2562 จะส่งข่าวสารสำคัญว่าเจ้าของประเทศต้องการให้บ้านเมืองมุ่งไปทางไหน และบอกต่อนานาชาติ ถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของคนส่วนใหญ่ หลังจากที่่ประชาธิปไตยในประเทศหยุดชะงักไป 4 ปี ด้วยข้ออ้างของคนกลุ่มหนึ่งว่า ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งเป็นระบบที่ไม่แก้ปัญหา และยังชักนำคนโกงเข้ามาฉ้อฉลประเทศ

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีปัญหาน่าห่วงหลายเรื่อง ด้วยกฎกติกาที่เปลี่ยนไปมาก อาทิ การที่มีผู้สมัคร 2 ประเภท คือ ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ซึ่งการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ ให้ลงคะแนน 2 บัตร แต่ครั้งนี้ใช้บัตรเดียว เมื่อเลือก ส.ส.เขต คะแนนจะเป็นของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคนั้นโดยอัตโนมัติ หมายเลขของผู้สมัครแต่ละพรรรค จะแตกต่างกันทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ แทนที่จะเป็นเบอร์เดียวกันเหมือนที่ผ่านมา และไม่มีเครื่องหมายของพรรค ระบุกำกับหมายเลขอีกด้วย จะด้วยเหตุผลเรื่องการพิมพ์หรืออะไรก็ตาม แต่เป็นตัวอย่างความผิดปกติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้การใช้สิทธิมีความสับสนได้

การออกแบบกฎกติกาเช่นนั้นมีเป้าหมายอย่างไร ใครจะได้ประโยชน์เสียประโยชน์ เชื่อว่าสังคมสรุปได้
ไม่ยาก แต่ทั้งหมดนี้ จะไม่มีผลน้อยลง และน้อยลงมาก หากประชาชนผู้มีสิทธิ พร้อมใจกัน ติดตามข่าวสารข้อมูลและออกไปใช้สิทธิ เลือกพรรคการเมืองที่เชื่อว่าจะนำพาประเทศไปในทิศทางที่ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด ใช้พลังของคะแนนเสียงสร้างความชัดเจนในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะข้อกล่าวอ้างของคนบางกลุ่มที่ระบุว่าคนไทยไม่มีความรู้เรื่องประชาธิปไตย และฉวยโอกาสยึดอำนาจไปจากประชาชน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image