ชี้แจง
เรื่อง ชี้แจงข่าวประกันสังคมจ่ายค่า HA ซ้ำซ้อน
เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน
อ้างถึง หนังสือพิมพ์มติชน วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2561 หน้า 1, 7
ตามที่อ้างถึง หนังสือพิมพ์มติชน เสนอข่าว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) แถลงข่าวที่โรงแรมนารา ว่าสำนักงานประกันสังคมได้ออกประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ซึ่งประกาศฉบับนี้กำหนดให้มีการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นให้กับสถานพยาบาลที่อยู่ในระบบประกันสังคมในอัตราไม่เกิน 60 บาท/คน/ปี ซึ่งเห็นว่าเป็นการจ่ายเงินซ้ำซ้อนและนำเงินของผู้ประกันตนไปจ่ายให้กับสถานพยาบาลโดยที่มิใช่เพื่อการรักษานั้น
สำนักงานประกันสังคม ขอนำเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.สำนักงานประกันสังคมได้ให้ความคุ้มครองสิทธิกรณีการเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายให้แก่ผู้ประกันตน ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 มาตั้งแต่ปี 2534 รูปแบบการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์หลักในระบบประกันสังคมคือการเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ และได้มีวิวัฒนาการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อให้ผู้ประกันตนได้เข้าถึงบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
2.สำนักงานประกันสังคมได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นโดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ ตัวแทนผู้ประกันตน นายจ้าง และสถานพยาบาลเห็นด้วยว่า เดิมค่าบริการทางการแพทย์จะจ่ายในรูปแบบเหมาจ่าย ซึ่งไม่สะท้อนคุณภาพการให้บริการแก่ผู้ประกันตนดังนั้น การจ่ายค่าบริการเพิ่มเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของสถานพยาบาลและเป็นในลักษณะเดียวกับเงินเหมาจ่ายตามจำนวนผู้ประกันตนที่มีชื่อตามทะเบียนที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดไว้ให้แก่สถานพยาบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการเพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาที่ดีขึ้น และยังเป็นการป้องกันการเกิดข้อร้องเรียนในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับการรักษาไม่เหมาะสมตามมาตรฐานทางด้านการแพทย์ อีกทั้งเป็นการจ่ายเพื่อยกระดับความพึงพอใจของผู้ประกันตนในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ซึ่งมีตัวชี้วัดความพึงพอใจของผู้ประกันตนในการใช้บริการโดยสะท้อนผลลัพธ์การให้บริการของสถานพยาบาลที่อยู่ในระบบประกันสังคม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตนเป็นหลัก
3.การจ่ายเงินทุกประเภทของสำนักงานประกันสังคมมีระเบียบคณะกรรมการประกันสังคมว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน พ.ศ.2555 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 (โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง) ข้อ 12 (1) จ่ายเป็นค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่ายาตามหลักเกณฑ์และอัตราที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
นายภูมา ธรรมกุล
รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
ทำใจไม่ได้
เรียน บก.ฟอรั่ม
1.ใกล้สิ้นปีครบรอบอายุ อายุก็เพิ่มมากขึ้น ใกล้ตายเข้าไปทุกขณะ แม้จะรู้ว่า “มันเป็นสัจธรรม” ของโลก แต่ก็อดใจหายทำใจไม่ค่อยจะได้ เหมือนการเมืองวันนี้ ก็รู้ว่า “มันต้องเป็นอย่างนี้” มีคนทำอย่างนี้อยู่ก็รู้ๆ อยู่ว่า รธน.นี้ดีไซน์มาเพื่อใคร? แต่ขอโทษครับ “ผมก็ยังทำใจไม่ได้” เมื่อได้ยินอย่างนี้ อดสูใจและสงสารตัวเอง ย้อนไปเกือบ 1,000 ปี ตอน “ขอม” ปกครองคนในสุวรรณภูมินี้ ผมมีอาการเหมือน “ขอมปกครอง” กระนั้น แม้ปัจจุบันไม่ใช่อดีตเช่นว่านั้น แต่ก็มีอาการเช่นนั้น (ได้แต่ขมขื่นใจทนอยู่ไปจนกว่าจะตาย)
2.ก็อย่างที่ผมบอกไว้…ประเทศไทยต้องมี “การสูญเสียครั้งใหญ่” เนื่องจากการต่อสู้ทางความคิด แม้คนไทยวันนี้ยังคิดไม่ได้ ถึงวันนั้นข้างหน้าก็ต้องคิดได้อยู่ดี แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยครับ คือ ต่างคนต่างมีเหตุผล แต่เมื่อเกิดการสูญเสียลงไปแล้วจะต้องกลับมาทบทวนว่า ใครคิดผิด ใครคิดถูก เหมือนเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา “ตอนนี้ก็พอสรุปได้แล้ว”
3.แก่นของเรื่องที่กำลังเขียนอยู่นี้คือ
3.1 การเข้าสู่อำนาจโดยไม่ชอบธรรม
3.2 การแสวงหาอำนาจ สืบทอดอำนาจ โดยวิธีการอันไม่ชอบธรรม
3.3 การไล่ต้อนให้ฝ่ายตรงข้ามไม่มีที่ยืน
3.4 ประชาชนไม่ยอมรับในข้อ 3.1, 3.2 และ 3.3
4.จากข้อ 3 เมื่อการเข้าสู่อำนาจไม่ชอบธรรมเป็นประเด็นหลัก ชาวไทยและคนเจริญแล้วในโลกจะไม่ยอมรับอยู่แล้ว ประเทศไทยทุกวันนี้มีสภาพเช่นไรก็รู้อยู่…แค่นั้นยังไม่พอ ยังจะสืบทอดอำนาจแล้วอยู่ต่อไป วิธีการสืบทอดอำนาจก็ยังใช้วิธีการอันไม่ชอบธรรมอีก แล้วอะไรจะไปเหลือ ผมไม่ใช่คนเล่นการเมืองสักหน่อย ผมยังทำใจไม่ได้กับวิธีการเช่นนี้ แล้วประชาชนคิดอย่างไร นักการเมืองที่มีมวลชนในมือคิดอย่างไร เอาล่ะ
ผมขอฝากประเทศไทยไว้กับพวกท่านด้วย…
ครับผม สวัสดี
จาก “คนเคยสั่งราชการแทนปลัดกระทรวง”
ตอบคุณคนเคยสั่ง
ต้องรอดูการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ว่าคนส่วนใหญ่มีความเห็นอย่างไร เชื่อว่าหลังจากเวลาผ่านมา 4-5 ปี จากนี้ไป ความคิดความเห็นของคนส่วนใหญ่ จะเป็นตัวกำหนดการเมืองว่าจะไปทางไหนและถ้าไม่เป็นไปในทิศทางที่คนส่วนใหญ่กำหนด จะมีปัญหาตามมาแน่นอนครับ
ยืนยันภาพจริง
เรื่อง การรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีข่าวจากมติชนออนไลน์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561
เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
ตามที่หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 ได้ลงข่าวภูมิภาค เรื่อง ร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว กรณีทำป้ายชุมชนท่องเที่ยวโอท็อปนวัตวิถีบางภาพไม่เป็นตามภาพจริงของหมู่บ้าน โดยใช้ภาพจากแหล่งอื่น และไม่มีร้านขายของฝากตามที่ปรากฏอยู่ในป้ายประชาสัมพันธ์นั้น
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับคณะกรรมการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีแล้ว ขอรายงานข้อเท็จจริง ดังนี้
1.กรณีป้ายประชาสัมพันธ์โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แจ้งอนุมัติให้สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอร่วมกับคณะกรรมการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ออกแบบและจัดทำป้ายตามความต้องการของแต่ละหมู่บ้านเพื่อบอกเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน ซึ่งผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานจ้างตามกำหนดและมีการตรวจรับตามระเบียบ พร้อมทั้งส่งมอบให้แก่หมู่บ้านเพื่อนำไปดำเนินการติดตั้งเอง สำหรับข้อความร้านขายของฝากในแผ่นป้าย ซึ่งขณะนี้ร้านขายของฝากอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้แจ้งให้หมู่บ้านปิดทับอักษรข้อความ “ร้านขายของฝาก” จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ สำหรับกิจกรรมปั่นจักรยานริมทะเล และล่องเรือตกหมึก ชุมชนมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้ เนื่องจากพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านห้วยทราย (ชายหาดวังด้วน) หมู่ 9 ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่หมู่บ้านติดกับชายทะเล
2.สำหรับรายละเอียดการเสนอภาพและข้อความในป้ายประชาสัมพันธ์ของหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านห้วยทราย (ชายหาดวังด้วน)ยืนยันว่าเป็นภาพจริงของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านห้วยทราย ซึ่งถ่ายเก็บไว้ตอนทัศนียภาพที่สวยงามช่วงน้ำทะเลลด
สำหรับกรณีบึงสาธารณะซึ่งอยู่ในที่ดินเอกสารสิทธิของเอกชน และเส้นทางจากถนนเพชรเกษมไปบ้านวังด้วนได้รับความเสียหาย เนื่องจากมีรถบรรทุกดินขนาดใหญ่ใช้เส้นทางเพื่อก่อสร้างรถไฟรางคู่ที่ตัดผ่านนั้น ไม่อยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
นายพัลลภ สิงหเสนี
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
