| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ |
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเข้ากรุงเทพฯ ไปเดินเล่นกับมิตรต่างแดนสองคน คนหนึ่งมาจากโปแลนด์ ส่วนอีกคนจากแอลเอ เดินกันตั้งแต่ปากคลองตลาดข้ามฟากไปย่านกุฎีจีนออกวัดอรุณฯ ทะลุไปถึงวังหลังแล้วข้ามฟากเดินต่อทะลุธรรมศาสตร์ไปจนถึงย่านข้าวสารเพื่อจะพบกับสมาชิกอีกสองคนจากฝรั่งเศสและจากไทยเราเองคนหนึ่งแล้วพากันไปกินมื้อค่ำจนดึกถึงได้แยกย้ายกันกลับ
มิตรภาพไม่จำกัดพรมแดน ยิ่งสมัยนี้โลกยิ่งหดแคบเพราะการเชื่อมต่อผ่านไฟเบอร์ออปติกใต้ทะเลหรือสัญญาณดาวเทียมในอากาศ ทำให้เรามีโอกาสมากขึ้นที่จะพบเจอหรือหาเพื่อนใหม่มาช่วยเปิดกะลาที่ครอบหัวเราอยู่ออกไป เรียนรู้ความหลากหลายอันเป็นธรรมดาของโลก ยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา เพศ ผิวพรรณ วัฒนธรรม ความคิดความอ่าน รวมถึงพฤติกรรมที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว
แน่นอนว่าภาษากลางที่เราใช้สื่อสารกันคือภาษาอังกฤษ สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีและในยุคอินเตอร์เน็ตมันง่ายด้วย ผมเจอกับมิตรต่างแดนเหล่านี้ก็ผ่านเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ตนี่ละครับ พวกเราที่มาเจอกันใช้เว็บ couchsurfing.com เป็นสื่อกลาง มันเป็นเว็บที่รวมของนักเดินทางทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นนักเดินทางประเภทแบ๊กแพคเกอร์ที่ต้องการสัมผัสและแลกเปลี่ยนกับคนในท้องถิ่นที่พวกเขาเดินทางไป
ทำกันตั้งแต่เป็นเจ้าบ้านแบ่งปันที่พักพิงให้ พาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ทำกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดความอ่าน ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวที่อยากถ่ายทอด หรือระดับพื้นๆ ที่สุดคือให้ข้อมูลท้องถิ่น วิธีการเดินทาง แนะนำเรื่องอาหารการกิน ฯลฯ ในฐานะเป็นเจ้าบ้าน อาจจะมีบ้างที่มีเจตนาเบี่ยงเบนไปเป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องกลั่นกรองกันเอาเอง แต่โดยระบบของเว็บก็มีส่วนที่ช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย
แม้แต่เราเองก็อาจจะได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ในบ้านเรานี่แหละ อย่างเมื่อครั้งก่อนมิตรจากโปแลนด์ต้องการไปวัดออโธดอกซ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันมีอยู่ ส่วนเธอรู้แต่ไม่แน่ใจกับวิธีที่จะไปให้ถึง สุดท้ายเราก็ไปด้วยกันไปถึงโบสถ์ตอนค่ำ แล้วก็ได้เข้าไปร่วมกับพิธีสวดประจำวันนั้นตั้งแต่ต้นจนจบราวชั่วโมงกว่าๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีประสบการณ์เต็มแบบนี้ในวัดออโธดอกซ์ ที่ผ่านมาเคยทำก็เฉพาะในวัดคาทอลิกเท่านั้น
เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ประทับใจมากด้วย บรรยากาศ ความเงียบ แสงสลัว เสียงเพลงสวดท่วงทำนองแปลกหูกังวานในโบสถ์ซึ่งแตกต่างไปมาก ทุกอย่างมาบรรจบกันอย่างลงตัวให้เกิดความสงบในใจได้ จบจากการสวดระหว่างเดินกลับผมยังได้ความรู้เกี่ยวกับนิกายออโธดอกซ์เพิ่มเติมอีกเป็นกระบุงจากที่เคยรู้เพียงน้อยนิด ถ้าไม่เจอกับเธอก็ไม่น่าจะมีโอกาสอย่างนี้ และถ้าไม่มีเว็บ couchsurfing ก็คงไม่มีโอกาสเจอเธอ
ผมเข้าไปที่ couchsurfing มาก็นาน ได้พบปะเจอะเจอกับมิตรต่างแดนผ่านทางนี้พอสมควร แม้ไม่ได้มีเจตนาจะฝึกภาษาอังกฤษ เพราะวัยเกินมาแล้ว แต่การทำอย่างนี้มันก็ได้ฝึกไปเองในตัว ฝึกจากภาคสนามของจริง ใครอยากใช้วิธีนี้ก็ลองเข้าไปใช้บริการดู แต่ควรไปด้วยใจพร้อมจะช่วยเหลือแบ่งปันมากกว่าเจาะจงจะไปเอาแต่ประโยชน์เข้าตัวในเรื่องภาษาเท่านั้น
เพราะถ้าเจาะจงอยากฝึกแต่ภาษาอื่นอย่างเดียว ก็ควรจะตรงไปยังที่ที่มีขึ้นเพื่อการนั้นโดยเฉพาะจะเหมาะกว่า
มีอยู่เว็บไซต์หนึ่งที่ผมเพิ่งรู้จัก ได้มาจากมิตรโปแลนด์ที่ไปวอล์กกิ้งทัวร์จนขาลากด้วยกันมาแล้ว 2 ครั้ง และอาจจะมีครั้งที่ 3 อีกก็ได้เพราะมาอยู่เมืองไทยค่อนข้างนานเป็นเดือนๆ เธอแนะนำเว็บไซต์ meetup.com ให้ผมรู้จัก เว็บไซต์นี้เป็นเว็บเครือข่ายของกลุ่มคนในท้องถิ่นทั่วโลก เป็นสื่อกลางสำหรับการจัดกลุ่มทำกิจกรรมแบบเจอหน้าเจอตากันจริงๆ ในแต่ละวันมีกลุ่มที่อาศัยเว็บนี้เป็นสื่อกลางจัดกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละแห่งหนทั่วโลกอยู่ประมาณ 9,000 กลุ่ม
กิจกรรมที่จัดก็แล้วแต่ว่าคนที่เป็นคนจัดสนใจอะไร อยากทำอะไร ไม่จำกัด
เอาเฉพาะกลุ่มกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับเรื่องที่กำลังพูดถึงในข้อเขียนชิ้นนี้ที่ผมเจอในเว็บ หลังจากค้นๆ ดูสักพัก เฉพาะกลุ่มในกรุงเทพฯเท่านั้น สองแบบของกลุ่มที่น่าสนใจอย่างน้อยก็สำหรับผม คือ กลุ่มนักอ่านที่ชวนกันอ่านหนังสือ แน่นอนว่าเป็นภาษาอังกฤษ แล้วกำหนดวันที่จะไปพบปะกันเพื่อพูดคุยกันถึงหนังสือเล่มนั้นๆ จากมุมมองหลังการอ่านของแต่ละคน
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่จัดขึ้นเพื่อให้ไปแลกเปลี่ยนภาษากันโดยตรง อยากฝึกภาษากับชาวต่างชาติตัวเป็นๆ ตรงดิ่งเข้าไปได้เลย ไปนั่งคุยกัน ดื่มกินสรวลเสเฮฮา นอกจากภาษาที่ต้องการฝึก ยังได้เพื่อนใหม่ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคนต่างวัฒนธรรมเป็นของแถม
อย่าหมกตัวอยู่แต่กับหน้าจอ รอมีส่วนร่วมกับเรื่องดราม่าไปวันๆ ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสะพานทอดไปสู่โลกกว้างบ้างดีกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ๆ อายุยังน้อย ปล่อยพวกที่แก่เกินแกงวนอยู่ในกะลาของพวกเขาไปเถอะ
