“คุณภาพ” (Quality) คือ จุดแข็งของธุรกิจอุตสาหกรรมที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะคุณภาพเป็น “ความได้เปรียบในการแข่งขัน” (Competitive Advantage) จริงๆ
“คุณภาพ” ของสินค้าหรือบริการเป็นสิ่งที่กิจการต่างๆ หยิบยื่นให้แก่ผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความพึงพอใจและมีความมั่นใจในตัวสินค้าหรือบริการที่จะประกันถึง “ความอยู่รอด” ของกิจการต่อไปได้หรือไม่ คุณภาพจึงเป็นสิ่งที่ชี้เป็นชี้ตายของทุกๆ องค์กรในปัจจุบัน
ทุกวันนี้ บริษัทจะจัดอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพียงสองรูปแบบนี้เท่านั้น คือ “บริษัทที่มีคุณภาพ” หรือ “บริษัททั่วๆ ไป” (ซึ่งถูกคุกคามและถูกกำจัดโดยบริษัทที่มีคุณภาพ)
เรามักจะคิดกันว่า การที่จะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพนั้นเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะบริษัทเหล่านั้นโชคดีเนื่องจากเริ่มต้นโดยผู้ก่อตั้งที่มองการณ์ไกล เลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง อยู่ในทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีพนักงานที่เก่งรวมทั้งได้จังหวะและตลาดที่ดีด้วย
เราจึงเชื่อกันว่า เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตและวัฒนธรรมขององค์กรหนึ่งๆ ได้ จึงได้แต่คิดว่าเหตุที่กิจการไปไม่รอดก็เพราะเรื่องของโชคชะตาฟ้ากำหนด และมีข้ออ้างต่างๆ อีกมากมายที่ทำให้กิจการไม่มีคุณภาพ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่จะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพนั้น ต้องถือว่าเป็น “กฎเกณฑ์” มากกว่าเป็น “ข้อยกเว้น” ดังเห็นได้จากจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของบริษัทห้างร้านที่มีคุณภาพ จนหลายแห่งสามารถขยายกิจการและครอบครองธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย
ความสำเร็จเหล่านี้ ดูได้จากกรณีตัวอย่างของประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ที่แสดงให้เห็นว่า การที่จะเป็นบริษัทระดับโลกได้ นอกจากจะต้องมีการบริหารที่ดีและมีการร่วมมือกันอย่างจริงจังของผู้บริหารและพนักงานแล้ว สินค้าหรือบริการจะต้องมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของลูกค้าด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องของขนาดความใหญ่ของกิจการ ตลอดจนความสำเร็จในอดีตหรือความโชคดีอะไรเลย
ทุกวันนี้ “คุณภาพ” จึงไม่ใช่เรื่องของ “ทางเลือก” และไม่ใช่เรื่องของการเปรียบเทียบในวิธีดำเนินการ แต่คุณภาพเป็นเรื่องที่ไม่มีไม่ได้ คุณภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอด และนับวันบริษัทที่มีคุณภาพจะทิ้งห่างจากบริษัทที่ด้อยคุณภาพจนตามไม่ทัน
การเป็นบริษัทที่มีคุณภาพจึงไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำไรสูง หรือมีเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ต้องคงไว้ซึ่งการปรับปรุงคุณภาพและผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ต้องมีนวัตกรรม ต้องไม่หยุดนิ่งกับการควบคุมต้นทุน ต้องสามารถกำจัดวิกฤตการณ์ และต้องสร้างความพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ จึงต้องย้ำว่า “คุณภาพสร้างความแตกต่าง” ในเชิงบวกไม่เพียงแต่สินค้าบริการหรือองค์กรเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญยิ่งต่อการประพฤติปฏิบัติที่มีคุณภาพของทุกคนด้วย ครับผม !
วิฑูรย์ สิมะโชคดี