สัพเพเหระคดี : ไม่จดทะเบียน : โดย โอภาส เพ็งเจริญ

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2529

คุณจำนูญทำสัญญาเช่าอาคารจากคุณโผงมีกำหนด 7 ปี

โดยคุณจำนูญเสียค่าหน้าดิน 20,000 บาท ต่อ 1 คูหา

และตกลงชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน เดือนละ 180 บาท

Advertisement

ในสัญญานั้น ระบุว่า เมื่อคุณจำนูญเช่าครบ 7 ปี

คุณโผงผู้ให้เช่ายินยอมต่อสัญญาเช่าให้คุณจำนูญอีก 15 ปี

โดยคุณจำนูญต้องเสียค่าหน้าที่ดินจำนวน 20,000 บาท ต่อ 1 คูหา

Advertisement

ตกลงค่าเช่าเป็นรายเดือน เดือนละ 180 บาท นับแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2536

แต่มิได้ไปจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

การให้เช่าและเช่าดำเนินมาไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งใกล้ๆ จะสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญา 7 ปี

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2536 คุณจำนูญได้ทำหนังสือถึงคุณโผง

ขอต่อสัญญาเช่าพร้อมเงินค่าหน้าดินจำนวน 20,000 บาท

ส่งไปให้คุณโผง

แต่คุณโผงไม่อยากให้คุณจำนูญเช่าต่อ จึงนำเงินนั้นมาคืน

แล้วแจ้งว่า ถ้าจะเช่าต่อขอเก็บค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท

แทนที่จะเป็นเดือนละ 180 บาท ซึ่งคุณจำนูญไม่ยินยอม

คุณโผงบอกเลิกสัญญา แล้วขอให้คุณจำนูญขนของออก

แต่คุณจำนูญไม่ยอม (อีก)

คุณโผงยื่นฟ้องขับไล่คุณจำนูญต่อศาล

ขอให้บังคับคุณจำนูญขนย้ายออกไปจากอาคารนั้น

คุณจำนูญให้การและฟ้องแย้งว่า คุณโผงไม่มีอำนาจฟ้อง

เพราะในสัญญาคุณโผงได้ให้คำมั่นแก่คุณจำนูญว่า เมื่อเช่าครบ 7 ปี

จะยินยอมต่อสัญญาเช่าให้คุณจำนูญอีก 15 ปี

โดยคุณจำนูญต้องเสียค่าหน้าที่ดินจำนวน 20,000 บาท ต่อ 1 คูหา

ตกลงค่าเช่าเป็นรายเดือน เดือนละ 180 บาท นับแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์

2536 คุณโผงรับเงินแล้ว แต่นำเงินมาคืน โดยจะเก็บค่าเช่าเป็นเดือนละ 2,000 บาท

คุณโผงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า

เพราะคุณจำนูญได้สนองคำมั่นของคุณโผงแล้ว

สัญญาใหม่ย่อมเกิดขึ้นในทันที

คุณโผงต้องไปจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้แก่คุณจำนูญอีก 15 ปีนับแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2536

ขอให้ยกฟ้องและให้คุณโผงไปจดทะเบียนการเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้แก่คุณจำนูญอีก 15 ปี

คุณโผงให้การสู้ต่อคดีแก้ฟ้องแย้งว่า

สัญญาเช่าเดิมไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงมีผลบังคับเพียง 3 ปี เมื่อครบกำหนดตามสัญญาเช่าแล้ว คุณจำนูญยังอยู่ต่อมา

ถือว่าเป็นการเช่าโดยไม่กำหนดระยะเวลา

คุณโผงมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อใดก็ได้

คุณจำนูญไม่มีสิทธิบังคับให้คุณโผงไปจดทะเบียนการเช่า

ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า

ให้คุณจำนูญและบริวารขนย้ายออกไปจากอาคาร

ให้คุณจำนูญใช้ค่าเสียหายแก่คุณโผงเดือนละ 500 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าคุณจำนูญและบริวารจะขนย้ายออกไปจากที่ดินและอาคาร

ยกฟ้องแย้ง

คุณจำนูญ อุทธรณ์

ศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษายืน

คุณจำนูญฎีกาว่า

คุณจำนูญได้สนองคำมั่นคุณโผงก่อนเวลาที่คุณโผงจะบอกเลิกสัญญาเช่ากับคุณจำนูญ ย่อมผูกพันคุณโผงให้ผู้เช่า

ถือว่าสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่แล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำนูญได้สนองคำมั่นของคุณโผงเมื่อพ้นกำหนด 3 ปี นับแต่วันทำสัญญาเช่า

เมื่อหนังสือสัญญาเช่ามิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

คุณจำนูญจึงฟ้องร้องบังคับได้เพียง 3 ปี ตามมาตรา 538

กำหนดเวลาเช่าที่เกินจาก 3 ปี ตามที่ตกลงกันไว้จึงไม่มีผลบังคับกันต่อไป

คำมั่นของคุณโผงที่ให้แก่คุณจำนูญไว้ตามสัญญาเช่า

จึงสิ้นผลบังคับไปด้วย

ฉะนั้น จึงไม่มีคำมั่นของคุณโผงที่จะให้คุณจำนูญสนองต่อไปอีก

ไม่มีสัญญาเช่าเกิดขึ้นดังที่คุณจำนูญฎีกา

พิพากษายืน

เป็นอันว่าคุณจำนูญต้องขนย้าย บ๊าย-บาย

(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2540)
———————————————

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 354 คำเสนอจะทำสัญญาอันบ่งระยะเวลาให้ทำคำสนองนั้น

ท่านว่าไม่อาจจะถอนได้ภายในระยะเวลาที่บ่งไว้

มาตรา 538 เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น

ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

ถ้าเช่ามีกำหนดกว่าสามปีขึ้นไป

หรือกำหนดตลอดอายุของผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าไซร้

หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

ท่านว่าการเช่านั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้แต่เพียงสามปี

โอภาส เพ็งเจริญ [email protected]

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image