200 รายชื่อผู้ได้รับการเลือกกันเองเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระดับประเทศ เมื่อ 27 ธันวาคม 2561 ถูกส่งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียบร้อยแล้วเมื่อ 2 มกราคมที่ผ่านมา
เป็นรายชื่อที่ส่วนหนึ่งมีปัญหา!
ซึ่งร้องเรียนจากผู้สมัครด้วยกันเอง 16 เรื่อง ที่อาจมีความไม่ชอบมาพากล
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ระบุว่า เรื่องร้องเรียน 16 เรื่องนั้น กกต.จะรายงานให้ คสช.ทราบด้วย
เมื่อ กกต.สืบสวนสอบสวนเสร็จ หากพบว่าผู้ใดได้รับเลือกโดยไม่สุจริตจะแจ้ง คสช.ทราบ และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิสมัครของผู้นั้นต่อไป
ในบรรดา 16 คำร้องนั้น มีอยู่ 3 คำร้องเป็นทนายความและลงสมัครในกลุ่ม 2 คือกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ผู้ร้อง 3 คนส่งสมัครโดยสภาทนายความ
คำร้องที่ยื่นต่อประธาน กกต.เพื่อคัดค้านการเลือก ส.ว.และขอให้ตรวจสอบผู้สมัครที่จังหวัดขอนแก่น 3 ราย
และขอให้ตรวจสอบวัตถุประสงค์ขององค์กรนิติบุคคลแนะนำผู้สมัครที่อาจส่อว่าขัดกฎหมายและพฤติกรรมอาจไปในทางสมยอมหรือฮั้วกัน
โดยผู้สมัคร 3 คนที่ถูกร้อง ถูกส่งสมัครจากองค์กรนิติบุคคลที่อาจไม่ได้มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ซึ่งอาจขัดกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561
กระนั้นยังปรากฏว่า องค์กรนิติบุคคลแห่งหนึ่งมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับอย่างหนึ่ง
แต่ไปรับรองผู้ที่ส่งลงสมัครที่ขอนแก่นว่าเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์นอกเหนือองค์กรนิติบุคคลนั้นทำอยู่
ผู้ถูกร้องคัดค้านคนหนึ่งอายุ 73 ปี เป็นอดีตข้าราชการครู ย่อมขัดคุณสมบัติในข้อนี้หรือไม่?
ผู้ร้องได้ตั้งประเด็นในคำร้องว่านี่คือการกระทำที่เข้าข่ายการสมยอมหรือการฮั้วกันหรือไม่?
ทำให้การเลือกกันเองไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
ทั้งผู้ลงสมัครซึ่งถูกร้องและผู้ที่ลงนามรับรองในฐานะองค์กรนิติบุคคล ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์ตรงกับกลุ่ม 2 ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
นอกจากนี้ในคำร้องอื่นๆ ระบุว่า การเลือกกันเองแบบองค์กรนิติบุคคล แนะนำชื่อให้คนมาลงสมัคร และลงสมัครอิสระมีการจัดตั้งคนที่เป็นพรรคพวกมาลงสมัครเพื่อจะให้เลือกหัวหน้าทีม
เท่ากับว่ามีการจูงกันบางอย่างหรือไม่?
คนที่สมัครหัวเดียวกระเทียมลีบ ประเภทข้ามาคนเดียว จึงไม่มีคะแนนเพราะไม่มีใครเลือก!
ส่วนเอกสารแนะนำตัวที่ กกต.จัดส่งให้ก่อนการเลือก 3-4 วันก็เป็นแค่ (เศษ) กระดาษที่มีค่าแค่บอกหมายเลขพรรคพวกที่ตัวเองจะเลือกหรือไม่?
จึงเป็นเรื่องเศร้าและน่าเห็นใจที่ผู้สมัครบางคนออกมาโวยหลังเลือกระดับประเทศเสร็จสิ้น
ทั้งเงินค่าสมัคร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก จิปาถะสูญเปล่า
ที่ช้ำไปกว่านั้นก็ตรงที่หลายคนถูกเพื่อนหักหลัง
บางส่วนมีสัญญาใจ ค้ำประกันล่วงหน้ากันไว้
ซึ่งต้องดูว่าตอนประกาศผล ส.ว.แล้ว ถ้าแต่งตั้งกันจริงก็เท่ากับการสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์เพื่อแลกคะแนน
อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่?
ทั้งหลายทั้งปวงคงต้องไปจบกันที่ศาลฎีกา
คสช.ในฐานะผู้จะคัดรายชื่อจาก 200 คน ให้เหลือ 50 คนเป็น ส.ว.ตัวจริง และอีก 50 คนเป็นรายชื่อสำรอง
จึงต้องรอบคอบ ถี่ถ้วน ระมัดระวังอย่าให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก!?!
ศุกร์มังกร