เดินตามรอย สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลายสมัย สำหรับ “ท่ามเฮง” น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ วัย 27 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มนิวเด็ม (NEW DEM) คนรุ่นใหม่พรรค ปชป. และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 จ.ตรัง
“ท่ามเฮง” มีดีกรี ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (จบ 3 ปีครึ่ง) เนติบัณฑิตไทย สมัย 67 และต่อด้วยปริญญาโท 2 ใบ นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายประกันภัย (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากมหาวิทยาลัยควีนแมรี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายการค้าระหว่างประเทศ (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาวิทยาลัยเคนต์ กรุงแคนเทอร์เบอรี ประเทศอังกฤษ
ส่วนประสบการณ์ในงานการเมือง “ท่ามเฮง” เคยเป็นอดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง (นายกิจ หลีกภัย) อดีตสมาชิกชมรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของหอการค้า (YEC) จังหวัดตรัง เป็นตัวแทนนำเสนอศักยภาพของท่าเรือนานาชาติตรัง (ท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ) ในงานกันตังฟอรั่ม (KANTANG FORUM) ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่ความมุ่งหวังในการทำงานการเมืองในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จ.ตรัง “ท่ามเฮง” ระบุว่า จากที่ได้ตามคุณพ่อลงพื้นที่สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ดิฉันได้คลุกคลีและรับรู้ถึงความรู้สึกทุกข์สุขของคนในพื้นที่มา นอกจากนี้มีโอกาสได้เรียนรู้งานบางส่วนในระดับประเทศในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติเพราะเคยติดตามและเรียนรู้งานจากคุณพ่อ ทำให้เห็นภาพโครงสร้างต่างๆ ในระดับจังหวัด
และประเทศได้ชัดขึ้น จากประสบการณ์ทำให้เรียนรู้ว่าทุกภาคส่วนในสังคมมีความสัมพันธ์กัน ถ้าเปรียบสังคมเสมือนเครื่องจักร แต่ละองค์กรในสังคมก็เหมือนฟันเฟืองเล็กๆ เครื่องจักรจะเดินไปข้างหน้าได้ ฟันเฟืองแต่ละตัวต้องมีประสิทธิภาพและทำงานไปพร้อมๆ กัน
ส่วนเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนา จ.ตรังนั้น “ท่ามเฮง” กล่าวว่า จ.ตรัง มีจุดเด่นในเรื่องของจุดยุทธศาสตร์ ทำเลที่ตั้ง ทำให้มีความพร้อมในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ มีทั้งป่าที่อุดมสมบูรณ์ น้ำตก ภูเขาและทะเลสวย ฉะนั้นการท่องเที่ยวใน จ.ตรัง ควรได้รับการสนับสนุนและส่งเสริม ทั้งเรื่องการคมนาคมไปสู่แหล่งท่องเที่ยว เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวสามารถนำมาเป็นจุดขายหลักที่สามารถทำรายได้เข้าจังหวัดมหาศาล ถ้าภาคท่องเที่ยวได้รับการส่งเสริมจะส่งผลดีต่อภาคบริการและฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยจะช่วยทำรายได้อันดับ 1 ให้กับประเทศไทย
นอกจากนี้รวมทั้งจะเร่งผลักดันท่าเรือนานาชาติตรัง (ท่าเรือบ้านนาเกลือ) เพื่อช่วยลดต้นทุนในการส่งออกสินค้าให้กับผู้ประกอบการในจังหวัด ยังเป็นการเพิ่มสถิติการส่งออกให้กับประเทศอีกด้วย
