เดินหน้าชน : ปัญหาใต้ : โดย ศุกร์มังกร

เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมายาวนานต่อเนื่อง และเริ่มปะทุตั้งแต่ปลายปี’61 ต่อเนื่องปี’62

ขยับ “เป้าหมาย” มาที่แหล่งเศรษฐกิจชายหาดแหลมสมิหลาช่วงปลายปี’61

ทั้งที่เกิดระเบิดและเก็บกู้ไว้ได้และไม่เปิดเผยอีกนับ 10 ลูก

โดยเฉพาะรูปปั้น “นางเงือกทอง” สัญลักษณ์ของ จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกระเบิดจนส่วน “หาง” ขาดเป็นสองท่อน

Advertisement

หลังเกิดเหตุวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าเรื่องการเมือง บ้างก็ว่าปมธุรกิจท่องเที่ยว บ้างก็ว่าตอบโต้มาตรการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน

นั่นเป็นเพียงการคาดเดา!

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ความไม่สงบทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รายวัน

Advertisement

เมื่อมีคนร้ายบุกเข้าไปยิง อส.เสียชีวิต 4 นาย คาโรงเรียนที่ปัตตานี กลางวันแสกๆ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สนธิกำลังไล่ล่ากระชั้นและปะทะกันดุเดือดจนจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 1 คน

ถัดมาอีก 2 วัน เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมวิสามัญฯคนร้ายไป 2 ศพ และเด็กหญิงถูกลูกหลงบาดเจ็บไปด้วย

และที่อุกอาจเห็นจะเป็นคนร้ายขี่จักรยานยนต์ 3 คัน บุกเข้าไปใช้ปืนยิงตำรวจเสียชีวิตในป้อมตำรวจ หน้าโรงพักนาประดู่ พร้อมทั้งยิงถล่มโรงพักก่อนหลบหนี

โดยเจ้าหน้าที่ไม่มีโอกาสตอบโต้เลย!

จนผู้บังคับบัญชาต้องประชุมหาสาเหตุ-มาตรการป้องกันเร่งด่วน

กระทั่งได้ผลสรุปสั่งย้าย “ผกก.-รอง ผกก.-สารวัตร” พ้นพื้นที่

ไม่นานคนร้ายลอบวางระเบิดทำให้ 2 นายดาบตำรวจชุดคุ้มครองโรงเรียนบาดเจ็บสาหัส

แพทย์ต้องตัดขาซ้ายของนายดาบตำรวจทั้งสอง!

ขณะที่ฟาก จ.นราธิวาส ทหาร ตำรวจ ปิดล้อมวิสามัญฯคนร้ายไป 1 ศพ กลางสวนยางพารา

ไม่ถึงชั่วโมงคนร้ายวางบึ้มทหารพรานขณะลาดตระเวนบาดเจ็บสาหัส 3 นาย

อีก 2 นาย เกิดอาการแน่นหน้าอก-หูอื้อ

และที่สะเทือนใจชาวพุทธและวงการสงฆ์เป็นอย่างยิ่งก็คือ เหตุคนร้ายบุกยิงเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัด มรณภาพคากุฏิ 2 รูป บาดเจ็บอีก 2 รูป

หลายฝ่ายออกมาประณาม-เรียกร้องให้จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาลที่มาจากทหาร

ซึ่งเป็นที่คาดหวังของประชาชน ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองให้เป็นปกติสุขสูงยิ่ง

เพราะมี ม.44 เป็นเครื่องมือสำคัญที่จัดการกับปัญหาได้รวดเร็วฉับพลัน

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ คสช.เข้ามาควบคุมอำนาจปกครอง เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายไปแล้ว 5 ปี

ปรากฏว่างบ “ดับไฟใต้” หรือที่อยู่ในแผนงานแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญดังนี้

ปี’58 งบ 25,744.3 ล้านบาท
ปี’59 งบ 30,886.6 ล้านบาท
ปี’60 งบ 12,692 ล้านบาท
ปี’61 งบ 13,255.7 ล้านบาท
ปี’62 งบ 12,025.3 ล้านบาท

โดยเฉพาะงบปี’60, 61 และ 62 นับเฉพาะ “งบฟังก์ชั่น” เท่านั้น

ไม่รวมงบบุคลากร เบี้ยเลี้ยง เงินเพิ่มพิเศษ และงบอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่ทุ่มลงไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระจายอยู่ในกระทรวง รวมถึงองค์กรอิสระรวมถึง 16 หน่วยงาน เพื่อแก้ปัญหาทั้งมิติงานความมั่นคงและงานพัฒนา

ทั้งตั้งโต๊ะเจรจา-พาคนกลับบ้านก็แล้ว

แต่ผลสัมฤทธิ์กลับรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่?

หรือจะลองใช้มาตรการของ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ว่า “การให้อภัยกับผู้ก่อการร้าย เป็นหน้าที่ของพระเจ้า แต่หน้าที่ของผมคือส่งคนเหล่านั้นให้พระเจ้า”!?!

ศุกร์มังกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image