กิจกรรมอย่างหนึ่งของการเลือกตั้งที่มีเสียงเรียกร้องให้เกิดขึ้นคือการประชันนโยบาย หรือการดีเบต สำหรับการดีเบตในการเลือกตั้งปี 2562 นี้ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้เป็นประธานการประชุมพรรคการเมือง เพื่อจับสลากเลือกคำถามในการดีเบตที่ กกต.จัดขึ้นให้กับ 54 พรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และแจ้งความประสงค์ที่จะร่วมเวทีดีเบตของ กกต. ข้อการดีเบตแบ่งเป็นนโยบาย 6 ด้าน คือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเกษตร และสาธารณสุข ซึ่งพรรคการเมืองจะพบกันในลักษณะ 2 พรรค และ 3 พรรค เริ่มบันทึกเทปตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม และจะนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ 21 สถานี สถานีวิทยุ 7 สถานี และช่องยูทูบ ตั้งแต่วันที่ 15-21 มีนาคม โดยแต่ละพรรคการเมืองสามารถส่งผู้แทนของพรรค หัวหน้าพรรค หรือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเข้าร่วมดีเบตได้
สำหรับผลการจับคู่ดีเบต 6 นโยบายบริหารประเทศ มีอาทิ นโยบายด้านศึกษา คู่ที่ 1.พรรคพลังท้องถิ่นไท-
พรรคประชานิยม คู่ที่ 2.พรรคแผ่นดินธรรม-กรีน คู่ที่ 3.พรรคมติประชา-พรรคคลองไทย คู่ที่ 4.พรรคภาคีเครือข่ายไทย-พรรครวมใจไทย นโยบายด้านสังคม คู่ที่ 1 รักษ์ผืนป่าประเทศไทย-พรรคเพื่อชาติ คู่ที่ 2.พรรคพลังประชารัฐ-พรรคประชาภิวัฒน์ คู่ที่ 3.พรรคภราดรภาพ-พรรคไทยธรรม คู่ที่ 4.พรรคทางเลือกใหม่-พรรคประชากรไทย คู่ที่ 5.พรรคพลังรัก-พรรคพลังแรงงานไทย คู่ที่ 6 พรรคผึ้งหลวง-พรรคชาติพันธุ์ไทย คู่ที่ 7.พรรคประชาไทย-พรรคพลังไทยดี นโยบายด้านเศรษฐกิจ คู่ที่ 1.พรรคภูมิใจไทย-พรรคเสรีรวมไทย-พรรคประชาธิปัตย์ คู่ที่ 2.พรรคเศรษฐกิจใหม่-พรรคพลังชาติไทย คู่ที่ 3.พรรคเพื่อไทย-พรรคไทยศรีวิไลย์ คู่ที่ 4 พรรคพลังธรรมใหม่-พรรคความหวังใหม่ คู่ที่ 5.พรรคคนงานไทย-พรรคไทยรักชาติ-พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นต้น
การดีเบตครั้งนี้ทาง กกต.เปิดทางให้แคนดิเดตนายกฯเข้าร่วมและไม่มีกฎหมายห้าม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งอยู่ในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐขึ้นเวที จึงมีผู้ประสงค์จะดีเบต และฟัง พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นดีเบต อย่างไรก็ตามการดีเบตไม่ว่าจะเป็นใครขึ้นมาก็ไม่น่ามีปัญหา เพียงขอให้ผู้ที่ขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรคสามารถนำเสนอนโยบายของพรรคได้ชัดเจน และถ่ายทอดให้ประชาชนเข้าใจ ทำให้ประชาชนสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกหรือไม่เลือกพรรคการเมืองนั้นๆ ดังนั้น น่าจะปล่อยให้แต่ละพรรคการเมืองคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมขึ้นเป็นตัวแทน เพื่อผลสัมฤทธิ์ที่การทำความเข้าใจนโยบายแต่ละด้านของแต่ละพรรคอย่างแท้จริง
