ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
บรรพชนคนอุษาคเนย์อย่างน้อย 2,500 ปีมาแล้ว เคยยกย่องเหี้ยหรือ ตะกวด, แลน เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันบางแห่งในไทยช่วงสงกรานต์ยังมีพิธีพลีเซ่นตะกวด
เหี้ย เป็นคำไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา แต่ก่อนหน้านั้นเขมรเรียกตะกวด ลาวเรียกแลน ล้วนเป็นสัตว์พันธุ์เดียวกัน แต่อาจต่างชนิดกัน
มีคำอธิบายจากนักวิชาการรุ่นใหม่ๆ ว่าเหี้ยเป็นชื่อใหม่ของสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำ เพิ่งมีหลังรับศาสนาจากอินเดีย แล้วเหยียดความเชื่อพื้นเมืองลงว่าเลวทรามต่ำช้า ดูได้จากเปลี่ยนชื่อเรียกตะกวด, แลน เป็น เหี้ย คำว่า เหี้ย เพี้ยนจาก หีน (คำเดียวกับที่ใช้เรียกอวัยวะเพศหญิง) แปลว่า เลวทรามต่ำช้า
ตะกวด เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของบรรพชนคนสุวรรณภูมิในอุษาคเนย์ มีลายสลักบนหน้ากลองทอง (มโหระทึก) อายุ 2,500 ปีมาแล้ว สัญลักษณ์ของน้ำและความอุดมสมบูรณ์
พระพุทธเจ้าเมื่อเป็นพระโพธิสัตว์เคยเสวยพระชาติเป็นตะกวด (เรียกโคธชาดก เป็นอรรถกถาชาดกในสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย) ชาวกัมพูชาโบราณยกย่องตะกวดเป็นบรรพชน มีตำนานในตอนต้นของราชพงศาวดารกัมพูชาว่าตะกวดตัวนี้อาศัยอยู่บนต้นทะโลก (ตำนานไทยว่าต้นหมัน) ฟังเทศน์พระพุทธเจ้าจนบรรลุธรรม ต่อมาเกิดเป็นคน แล้วเป็นบรรพชนกัมพูชา
หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ จ. สุรินทร์ มีพิธีพลีเซ่นตะกวด เพราะคนหมู่บ้านนี้ยกย่องตะกวดเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ทำร้าย ไม่กำจัด บรรดาตะกวดคลานเพ่นพ่านในหมู่บ้านและในวัด พอถึงสงกรานต์ชาวบ้านมีพิธีพลีเซ่นตะกวด