การเลือกตั้งหนนี้ มีทั้งแง่มุมดี-แง่มุมร้ายให้พบเห็น และยังมอบความหวัง-ความรู้สึกหมดหวังให้แก่ผู้ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กัน
ด้านหนึ่ง เราได้รับชมรับฟังการดีเบตจำนวนมาก ได้รับรู้การประชันนโยบายที่หลากหลายระหว่างพรรคการเมือง ได้ถกเถียงแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกันอย่างสันติ
หลังจากถูกบังคับให้สงบเงียบเรียบร้อยมานานหลายปี
นอกจากนั้น การเลือกตั้งได้เปิดโอกาสให้ “คนรุ่นใหม่” เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับการเมือง ทั้งในฐานะนักการเมือง ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
นี่คือการเลือกตั้งทั่วไปหนแรกสุด ที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการรณรงค์หาเสียงและประเมินฐานคะแนนเสียงของแต่ละพรรค
การเลือกตั้ง 24 มีนาฯ จึงก่อตัวขึ้นท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของสังคม จนแม้แต่ “ลุงตู่” ก็ยังต้องปรับลุคถ่ายรูปใหม่ (ไม่ว่าจะ “เวิร์ก” หรือไม่ก็ตาม)
ทว่าในอีกด้านหนึ่ง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็ได้มองเห็นกิจกรรมหลายต่อหลายอย่าง ซึ่งคล้ายจะไปด้วยกันไม่ได้ หรือกระทั่งสวนทางกับบรรยากาศการเดินหน้าสู่วันเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย อาทิ
หน่วยงานราชการสำคัญแสดงปฏิกิริยา “ตบเท้า” โชว์พลัง หลังมีวิวาทะ-กรณีพิพาทกับนักการเมือง/พรรคการเมือง พ่วงด้วยการทำสงครามข่าวสารตามมาอีกระลอก
เกิดกระบวนการ “ปั้นข่าวผิด-บิดเบือนเนื้อหา” เพื่อกล่าวโทษหัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับคะแนนความนิยมสูงเกินคาด ในการเลือกตั้งคราวนี้
และมีข้าราชการรวมทั้งบุคคลทั่วไป ทยอยฟ้องร้องยุบพรรคการเมือง ด้วยข้อกล่าวหาเล็กๆ น้อยๆ ยิบย่อยต่างๆ ซึ่งไม่ค่อยมีน้ำหนักมากนัก
อาจเรียกได้ว่าแอ๊กชั่นเหล่านี้เป็น “การเล่นการเมืองแบบไทยๆ” ที่มิได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง และอาจไม่ต้องตรงกับนิยามความหมายของ “ประชาธิปไตยสากล” สักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยทรงพลังมากพอที่จะหันเหสังคมไทยออกจากการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เมื่อยังมีการเลือกตั้ง สังคมก็ไม่สามารถมีพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงตัวเลือกเดียวได้
ดังนั้น ตราบเท่าที่เรายังมีหลายตัวเลือก หลายตัวละคร (แม้จะตกหล่นสูญหายไปบ้างในระหว่างทาง) เข้ามาเจรจาต่อรองและข้องเกี่ยวกับเกมการเมือง
ตราบเท่าที่การมีส่วนร่วมของประชาชนยังไม่ถูกระงับยับยั้ง
“ประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ก็ยังคงมีชีวิต
จนถึงบัดนี้ บทสรุปทางการเมืองไทยในรอบ 5 ปี อันจะนำพวกเราไปสู่ “บทตอนใหม่ๆ” ซึ่งย่อมไม่ใช่ “บทสุดท้าย” ยังเป็นการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562
ไม่มีเปลี่ยนแปลง