‘เอ็กซ์เทรล’ ไมเนอร์เชนจ์ โดดเด่นด้านเทคโนโลยี : โดย นายพล

ค่าย นิสสัน เปิดตัว นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 นับแต่เจเนอเรชั่นแรกที่เปิดตัวในปี พ.ศ.2543

เจเนอเรชั่นที่ 3 การออกแบบรูปลักษณ์ดูมีมิติยิ่งขึ้น ซุ้มล้อใหญ่ และความโค้งมนบนฝากระโปรง กระจังหน้ารูปตัววี หรือวี-โมชั่น (V-motion) เป็นสัญลักษณ์การออกแบบของนิสสัน พร้อมทั้งไฟตัดหมอก กันชน และไฟแอลอีดี เดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์

ปรับกันชนด้านหลังใหม่ ให้โค้งรับและเข้ากันกับไฟท้ายทรงบูมเมอแรง รวมถึงบานจับประตูด้านข้างแบบเคลือบโครเมียม

Advertisement

ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 2.5VL 4WD มาพร้อมกับสีใหม่ ได้แก่ สีส้ม โมนาร์ช (Monarch Orange)

ห้องโดยสารของนิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ เป็นที่นั่งในรูปแบบ 5+2 ที่นั่ง (ในรุ่น 2.5 ลิตร) และ 5 ที่นั่ง (ในรุ่นไฮบริด 2.0 ลิตร)

ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบแฮนด์ฟรี รางหลังคาและพาโนรามิกซันรูฟ เอกลักษณ์ของเอ็กซ์เทรล ผ่านกระจกที่กว้างขึ้น (มีให้เลือกในรถยนต์บางรุ่น)

Advertisement

พวงมาลัยใหม่ แบบ ดี-เชป (D-Shaped) รูปทรงสปอร์ต พนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้ รองรับจำนวนผู้โดยสารได้ในแบบ 5+2 ที่นั่ง

ที่นั่งแถว 2 สามารถแยกพับได้ 60:40 และที่นั่งแถว 3 แบบ 50:50 สามารถพับเก็บได้

ระบบความบันเทิงรูปแบบใหม่ แบบ A-IVI เพิ่มสไตล์และความหรูหรา

เทคโนโลยีความปลอดภัย จากนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ประกอบด้วย เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ หรือ Intelligent Cruise Control (ICC) ระบบจะควบคุมความเร็วที่สั่งการได้อัตโนมัติ ในสถานการณ์ที่มีรถอยู่ข้างหน้า ระบบสามารถชะลอรถตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถตามที่ปรับไว้ได้เองโดยอัตโนมัติ เมื่อสามารถกลับมาใช้ความเร็วได้ ระบบจะปรับความเร็วขึ้นเองโดยอัตโนมัติ กลับไปสู่ความเร็วที่ผู้ขับได้ตั้งไว้

เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert-RCTA) ระบบเตือนระหว่างเข้าเกียร์ถอยหลัง เมื่อตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกะพริบเตือนในด้านเดียวกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา

เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning-FCW) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าหากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า ระบบจะส่งสัญญาณ และเสียงเตือน

เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking-IEB) ทำงานร่วมกับระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็ว ด้วยกล้องด้านหน้าแล้วช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถ บรรเทาอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดจากการชนรถยนต์ด้านหน้า

เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning-LDW) จะแจ้งเตือนด้วยเสียงและสัญลักษณ์บนหน้าปัด เมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกช่องจราจร ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุจากการไถลออกด้านข้าง ระบบจะทำงานเมื่อมีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เทคโนโลยีเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Intervention-BSW) เมื่อมีรถยนต์อยู่ในจุดอับสายตา ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นด้วยระบบเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนช่องทางขับขี่ ทันทีที่สัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิด ระบบจะส่งเสียงสัญญาณพร้อมไฟกะพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าขณะนั้นกำลังมีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้างซึ่งผู้ขับไม่สามารถมองเห็น

เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor-iAVM) ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นภาพพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 ชุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และนำไปประมวลผล

จากนั้นแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ และยังทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ด้านหน้าและด้านหลังของระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection-MOD)

เทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection-MOD) ทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญานเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้

ยังมีนวัตกรรมด้านความปลอดภัย ได้แก่ เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Asisst: HBA) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake: AEB) ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control: ARC) ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Active Trace Control: ATC) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Active Brake Limited Slip: ABLS) และถุงลม 6 จุด ได้แก่ ถุงลม SRS คู่หน้า ถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลมด้านข้าง

มีให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และไฮบริด ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับเกียร์ เอ็กซ์ทรอนิก ซีวีที (XTRONIC CVT) พร้อมระบบ แมนนวล โหมด (manual mode) 7 สปีด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงที่ 233 นิวตันเมตร ขณะที่เครื่องยนต์แบบไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงที่ 200 นิวตันเมตร พร้อมกำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงม้าสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมโรเตอร์สวิตช์ (4x4i with roter switch) ของนิสสัน เอ็กซ์เทรล เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยการขับขี่ทั้งออนโรดและออฟโรด สามารถเลือกโหมดการขับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

มาพร้อมสีภายนอก 6 สีให้เลือก ได้แก่ สีแดง เรเดี้ยนเรด, สีดำ แบล๊กสตาร์, สีขาว สตอร์มไวท์, สีเงิน บริลเลี่ยนซิลเวอร์, สีเทา ดีพไอริสเกรย์ และสีใหม่ สีส้ม โมนาร์ช และมีให้เลือก 5 รุ่น คือ

รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

ถือว่าเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่นับว่าเป็นอีกตัวเลือกของคนที่ต้องการรถยนต์แบบครอบครัวเน้นการใช้งานเป็นหลัก

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image