การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า มีปัญหาบ้าง แต่ภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ปัญหาที่พบ คือแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวตล่ม ซึ่ง กกต.ได้แก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์อีกเท่าตัว จนกลับมาใช้ได้ ในเขตกรุงเทพฯ เช่น เขตหนองแขม บางแค สาทร และหลักสี่ มีผู้มาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องต่อแถวยาว เกิดความล่าช้า 30-40 นาที แต่ได้ประสานแก้ไขด่วน จนใช้สิทธิได้ภายในเวลา 20 นาที
รองเลขาธิการ กกต.เผยด้วยว่า บัตรลงคะแนนหลังจากปิดหีบแล้ว จะมีตำรวจกับไปรษณีย์ขนย้ายมายังไปรษณีย์ เขตหลักสี่ และจะเริ่มทำการคัดแยกในเวลา 10.00 น. ในวันที่ 18 มีนาคม เมื่อแล้วเสร็จจะส่งไปยัง 350 เขต เพื่อให้จัดเก็บในสถานีตำรวจภูธร ไว้จนถึงวันที่ 24 มีนาคม จึงจะนำมานับคะแนนรวมพร้อมกันทั่วประเทศ ยืนยันว่าภายในสถานที่จัดเก็บมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแล และมีกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้สมัคร หรือประชาชน ที่สนใจจะดูสามารถติดต่อร้อยเวรขอดูกล้องวงจรปิดได้
การใช้สิทธิล่วงหน้าดังกล่าว มีผู้ลงทะเบียน 2.6 ล้านคน ในภาพรวมการทำงานของ กกต.ยังคงต้องปรับปรุง หลังจากมีปัญหาการใช้สิทธิล่วงหน้าในต่างประเทศมาแล้ว ส่วนการใช้สิทธิล่วงหน้าในประเทศ มีปัญหาขลุกขลักต่างๆ ในการรองรับผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก สะท้อนถึงการจัดระบบที่ไม่เข้าที่ ยังเหลือการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม ที่คาดว่าผู้มีสิทธิอีกเกือบ 50 ล้านคน จะมาใช้สิทธิอย่างล้นหลามอีก ซึ่ง กกต.จะต้องให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าจะได้ใช้สิทธิอย่างสะดวกตามสมควร
ประเทศไทยเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ถูกขัดขวางกลายเป็นโมฆะ และเกิดรัฐประหารซึ่งจัดรัฐบาลบริหารงานต่อมาอีก 5 ปี การหลั่งไหลออกมาใช้สิทธิล่วงหน้า สะท้อนถึงความอัดอั้นต่อสภาพการเมือง ในวันที่ 24 มีนาคม ประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เลือกพรรคการเมืองใด จะหมายถึงการแสดงเจตนารมณ์ต่อปัญหาบ้านเมือง ซึ่ง กกต.จะเป็นผู้ทำให้สารจากประชาชนสะท้อนถึงผู้มีอำนาจผ่านการเลือกตั้่ง นับเป็นภาระหน้าที่อันสำคัญที่จะต้องเตรียมการและดำเนินการอย่างพลาดไม่ได้หรือไม่ควรพลาด