นักเรียนทั่วโลกหยุดเรียน ประท้วงสภาพภูมิอากาศ : โดย ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

นักเรียนทั่วโลกหลายแสนคนหยุดเรียน เพื่อประท้วงอากาศที่ร้อนระอุ โดยเรียกร้องให้นานาประเทศสนใจประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

อากาศทั่วโลก มีความร้อนเพิ่มขึ้นตามลำดับและต่อเนื่อง

แม้รัฐบาลของประเทศต่างๆ ได้ใช้มาตรการช่วยลดความร้อน แต่ยังไม่สามารถคลายร้อนได้มากนัก ซ้ำยังมีประเทศส่วนหนึ่งย้ำรอยประวัติศาสตร์ คือเดินถอยหลังไปสู่อดีต

บัดนี้ วิกฤตภูมิอากาศได้มาถึงจุดที่มิอาจกลับไปสู่สภาพปกติแล้ว

Advertisement

ผู้ที่รับเคราะห์กรรมก็คือคนรุ่นหลังอย่างมิอาจต้องสงสัย

ฉะนั้น จึงเป็นเหตุให้นักเรียนจำนวนมหาศาลออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

แต่ก็มิได้หมายความว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะได้รับผลสำเร็จเรื่องภูมิอากาศ

หากประเด็นสำคัญอยู่ที่ต้องควบคุมนโยบายเห็นแก่ได้ของระบอบทุนนิยมและบรรดานายทุน ตลอดจนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีพ

วาทกรรมของนักการเมืองไม่สามารถปรับเปลี่ยน เพราะส่วนใหญ่พูดแล้วไม่ทำ

ปฐมเหตุการหยุดเรียนประท้วงสภาพอากาศ จนกลายเป็นกระแสระดับโลก น่าจะเกิดจากปีที่แล้ว มีนักเรียนหญิงชาวสวีเดนชื่อ Greta Thunberg วัย 15 ปีขณะนั้น ได้ออกมาประท้วงท่ามกลางอากาศร้อนระอุด้วย “ชุดวันเกิด” ในฤดูร้อน

เธอไม่พอใจที่นักการเมืองไม่ให้ความสนใจวิกฤตอากาศ ทุกวันศุกร์จึงถือป้ายที่มีข้อความว่า “เพื่ออากาศจึงหยุดเรียน” แล้วเดินไปยังรัฐสภา นั่งลงทำการชูป้ายประท้วงอย่างสงบ

พฤติกรรม “หยุดเรียนหนึ่งคน” ของเธอ เป็นเหตุให้เกิดกระแสตอบรับอย่างถล่มทลาย และนอกเหนือความคาดหมาย สื่อมวลชนต่างได้เสนอข่าวของเธออย่างต่อเนื่อง ประเทศในยุโรปทยอยหยุดเรียนประท้วงนับวันมากขึ้น

ฉะนั้น จึงเชื่อว่า การหยุดเรียนทำการประท้วงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกในวันนี้ น่าจะพัฒนามาจากเรื่องราวของ Greta Thunberg อย่างมิอาจสงสัย

เวลาเพียงครึ่งปี Thunberg จากเพศสภาพที่เป็นเด็กนักเรียนหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ได้กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ทั้งนี้น่าจะเกิดจากอิทธิพลทางจิตใจที่เด็ดเดี่ยวเที่ยงตรง

เธอกล่าวว่า สงสัยข่าวการปรับเปลี่ยนภูมิอากาศนั้นเป็นความเท็จ เพราะสังเกตได้ว่า คนส่วนใหญ่รู้เห็นปัญหาแต่ไม่แก้ปัญหา

ปีที่แล้ว Thunberg เป็นตัวแทนของกลุ่มรักษาสิ่งแวดล้อม ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเกี่ยวกับภูมิอากาศสหประชาชาติ เธอได้ตำหนินักการเมืองในประเด็นนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อมว่า “ปากอย่างใจอย่าง” แม้กระทั่งเด็กเล็กก็ยังมองเห็นความจริงแห่งวิกฤตของอากาศ

การที่ Thunberg หยุดเรียนออกมาทำการประท้วงนั้น ประชาคมโลกมีความเห็นแตกต่างกัน กล่าวคือ คนในวงการรักษาสิ่งแวดล้อมเห็นด้วยและสนับสนุน ยังมีความเห็นเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบล ส่วนนักวิชาการเห็นว่า นักเรียนมีหน้าที่เรียนเท่านั้น นอกจากการหยุดเรียนประท้วง ยังมีวิธีอื่นที่เรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตความร้อน

อย่างไรก็ตาม การที่เธอออกมาทำการประท้วงด้วย “ชุดวันเกิด” และได้รับการตอบสนองจากคนรุ่นใหม่ทั่วโลกในขณะนี้นั้น เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่ควรเลียนแบบ เพราะขัดต่อระบบระเบียบ และศีลธรรมอันดีงาม

สภาพภูมิอากาศแปรเปลี่ยนได้เริ่มตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ถ้าภายในระยะเวลา 5 ปี ถ้าไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ อาจทะลุ “บอร์เดอร์ไลน์” เมื่อนั้นความเสื่อมก็ต้องมาเยือน

ปัจจุบัน การลดอุณหภูมิของโลกยังไม่เพียงพอ ซ้ำร้ายสหรัฐยังถอยหลังเข้าคลองคือ ถอนตัวออกจาก “สนธิสัญญาภูมิอากาศปารีส”

การประท้วงสภาพภูมิอากาศด้วยการหยุดเรียน นอกจากเป็นการต่อต้านอากาศร้อน ในทำนองเดียวกันก็เป็นการวิพากษ์ระบอบทุนนิยม

ตรรกะของทุนนิยมคือสะสมเงินทุน หวังผลกำไร ผลักดันให้ทำการบริโภคสินค้า เช่น ขายเครื่องปรับอากาศ นายทุนได้เงินตรา สังคมได้มลพิษ ถ้ามองเหรียญสองด้าน

นายทุนก็คือ เพชฌฆาต ที่ปราศจากคำพิพากษาของศาลนั่นเอง

วันนี้ อุตสาหกรรมทั่วโลกพัฒนาถึงขั้นไม่สามารถถอยกลับไปสู่สังคมเกษตรกรรมแล้ว ปัญหาอากาศร้อนระอุย่อมนับวันเลวร้าย มีอยู่ทางเดียวคือ ทุกประเทศทั่วโลกต้องช่วยกัน หากมิฉะนั้น เสียทั้งการเรียน เสียทั้งสภาพอากาศ

ศ.ชยานันต์ ศุกลวณิช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image