ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
พระสธุน มโนห์รา เป็นภาคจบที่กลับชาติมาเกิดของเรื่องพระรถ เมรี แล้วเล่นละคร จนได้รับยกย่องเป็นยอดนิยมของชาวบ้านยุคอยุธยาและยุคต่อมา นับเป็นวรรณกรรมลุ่มน้ำโขงที่แพร่กระจายลงลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคกลาง ถึงภาคใต้
เห็นได้จากจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ และจิตรกรรมในสมุดข่อยเขียนเรื่องนี้อย่าง กว้างขวางและแพร่กระจายมากที่สุด
พระสุธน มโนห์รา เรียกสั้นๆ เป็นที่รู้กันว่ามโนห์รา เมื่อแพร่หลายลงไปภาคใต้ก็กร่อนเหลือ โนรา
เรื่องย่อ พระสุธน มโนห์รา
เรื่องพระสุธน มโนห์รา มาจากสุธนชาดก ชาดกลำดับที่ 2 ในปัญญาสชาดก
สุธนชาดกเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วเอเชีย แต่ละประเทศต่างมีวรรณคดี
เรื่องพระสุธนในภาษาของตน
ในภาษาไทยมีเรื่องพระสุธนเท่าที่พบ 4 สำนวน คือ พระสุธนคำกาพย์ พระสุธน คำกลอน พระสุธนคำฉันท์ และบทละครเรื่องพระสุธน ทั้งหมดนี้ตีพิมพ์เผยแพร่แล้ว
เนื้อเรื่องย่อ พระยานาคจิตรชมพูได้มอบบ่วงนาคบาศให้แก่พรานบุญ เพื่อตอบแทน
พรานบุญที่ได้ฆ่าพราหมณ์ที่มุ่งประทุษร้ายตน
พรานบุญได้ใช้บ่วงนั้นคล้องนางมโนห์รา นางกินรีซึ่งเป็นธิดาของท้าวทุมราชแห่งเขาไกรลาสได้ และได้นำมาถวายเป็นชายาของพระสุธน
ต่อมาพระสุธนต้องยกทัพไปปราบข้าศึกที่ยกมารุกรานชายแดน ปุโรหิตซึ่งแค้นเคืองพระสุธนมาแต่เดิม ยุยงให้พระบิดาของพระสุธนนำนางมโนห์รามาบูชายัญ
นางมโนห์ราทำอุบายขอปีกหางของนางมาร่ายรำในพิธีบูชายัญ และเมื่อได้โอกาส นางก็บินหนีไป นางได้ฝากผ้ากัมพล ธำมรงค์ มนตร์ ไว้แก่พระฤๅษี เพื่อให้พระสุธนใช้เป็นเครื่องนำทางไปยังเมืองของนาง
พระสุธนติดตามนางไปด้วยความยากลำบาก ต้องฝ่าอุปสรรคนานัปการเป็นเวลานานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ก็ลุถึงเมืองของนาง
พระสธุนถอดธำมรงค์ใสล่งไปในหม้อน้ำที่นางทาสีจะนำไปสระสรงนางมโนห์รา นาง จึงทราบว่าพระสวามีได้ติดตามมา พระสธุนซึ่งนอกจากจะต้องแสดงความสามารถในด้าน ศรศิลป์ท่ามกลางมหาสมาคมแล้ว ยังต้องเลือกนางมโนห์ราออกจากกลุ่มพระธิดาทั้ง 7 ซึ่งแต่งกายเหมือนกันอีก
พระสุธนไม่สามารถจะตัดสินใจได้ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงเป็นแมลงวันมาเกาะที่ช้องผมของนางมโนห์รา พระองค์จึงเลือกนางได้ถูกต้อง
[ภาพและคำอธิบายจากหนังสือภาพเกี่ยวกับวรรณคดีไทย ที่บานแผละของประตู และหน้าต่างพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร โดย ดร. นิยะดา เหล่าสุนทร พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนทสริมิหาเถร) ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2526]
โนรา มาจากชื่อนางมโนห์รา
โนรา มาจากชื่อนางมโนห์รา ตัวเอกละครนอกยุคอยุธยา ซึ่งเป็นละครชาวบ้านหรือละครชาตรี บางทีเรียกรวมกันว่า โนราชาตรี
นอกจากนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ยังทรงพระนิพนธ์ (เมื่อ พ.ศ. 2462) ว่าโนรามาจากละครนอก เล่นเรื่องนางมโนห์รา บทละครครั้งกรุงเก่า ในหนังสือบทละครครั้งกรุงเก่า ว่า
ชาวนครศรีธรรมราช เรียกละครชาตรีว่า “โนรา” ถ้าเราจะไปเรียกว่า “ละคร” ก็ไม่เข้าใจ
อันคำว่า “โนรา” นี้คงมาจากชื่อนางมโนห์ราในบทละครเป็นแน่ไม่มีที่สงสัย เพราะวิสัยชาวละครพูด ย่อมตัดตัวลหุที่อยู่ต้นคำเสีย เช่น ตะเภา พูดแต่ว่า “เภา” สตางค์ พูดแต่ว่า “ตางค์” เป็นต้น อยู่จนทุกวันนี้
อนึ่งละครตัวตลกที่เล่นในโนราก็ยังเรียกว่า “พราน” อันเป็นตัวสำคัญแต่ในเรื่องนางมโนห์รา จึงเป็นหลักฐานมั่นคงดังกล่าวมานี้
ตำนานของละครโนรา มีในคำไหว้ครูของเขา ว่าครูเดิมชื่อขุนศรัทธา อยู่ในกรุงศรีอยุธยา มีความผิดต้องราชทัณฑ์ให้ลอยแพไปเสียจากพระนคร แพขุนศรัทธาลอยออกปากน้ำไปติดอยู่ที่เกาะสีชัง พวกชาวเรือทะเลพบ จึงรับไปส่งขึ้นที่เมืองนครศรีธรรมราช ขุนศรัทธาจึงได้ไปเป็นครูฝึกหัดโนราให้มีขึ้นที่เมืองนครเป็นเดิมมา
บทละครเรื่องนางมโนห์รา เป็นบทละครชั้นแรกในกรงุเก่า คงชอบเล่นกันเป็นพื้นเมือง ตาขุนศรัทธาเป็นตัวละครดีมีชื่อเสียงในการเล่นเรื่องนางมโนห์รา ครั้นถูกเนรเทศออกไปอยู่เมืองนครศรีธรรมราช ไปหัดให้ชาวละครเล่นตามแบบเก่าเมื่อกระนั้น ให้เล่นเรื่องนางมโนห์ราที่ตัวชำานาญ ชาวละครจึงเลยเรียกละครว่า “โนรา”
นางมโนห์รา
นางมโนห์ราสะท้อนวัยรุ่นยุคอยุธยา มีในบทละครครั้งกรุงเก่า แต่งด้วยฉันทลักษณ์กลอนเพลงเก่าสุด เนื้อเรื่องย่อๆ ว่า
นางแม่ห้ามนางมโนห์ราออกไปเที่ยวเล่นน้ำ เพราะโหรทำนายไว้ว่าจะมีเคราะห์ แต่นางมโนห์ราไม่เชื่อฟัง ท้ายสุดถูกพรานบุญจับตัวไปถวายพระสุธน
ตอนขึ้นเสียงเถียงทะเลาะกับนางแม่หลายเรื่อง จนถึงเรื่องมีผัว นางมโนห์ราอ้อนแม่ว่าอยากมีผัว จึงตัดพ้อนางแม่ว่า
๏ น่าสงสารพระมารดา อนิจจามาหวงลูกเอาไว้
แก่แล้วแม่จะค่อยให้ ผู้ชายที่ไหนจะเหลียวแล
ธรรมเนียมมาแต่ไหน ใหญ่ใหญ่มานอนอยู่กับแม่
แกล้งหวงเอาไว้ให้เฒ่าแก่ ผู้ชายมาแลก็น่าเกลียด
นางแม่สอนเรื่องหาผัวให้นางมโนห์ราอย่างเหน็บแนมแกมประชดถึงอกถึงใจว่า
๏ เป็นหญิงเจ้าแม่อา อย่าทำกะริบกะเรียด
ตัวเจ้ายังน้อยสักเท่าเขียด เจ้ามาวอนแม่จะมีผัว
เมื่อจะทอหูกไม่ถูกก้น มันจะเอาตะกรนมาโขกหัว
เจ้ามาวอนแม่จะมีผัว ลูกเอยจะยืนสักเท่าใด
ลูกเอยจะเลี้ยงเอาผัวแขก ลูกเอยจะเลี้ยงเอาผัวไทย
เลี้ยงไว้ให้หนำใจ ส่งให้อ้ายมอญมักกาสัน
ส่งให้อ้ายจีนปากมอด ส่งให้มันกอดจนตายดั้น
อ้ายมอญมักกาสัน ส่งให้ญี่ปุ่นหัวโกน
เลี้ยงลูกชาวบ้านเอย อีนี่ใจยักษ์ใจโลน
อ้ายญี่ปุ่นหัวโกน หนำใจผู้เจ้ามโนห์รา
นางมโนห์ราไม่ละไม่เว้นเมื่อนางแม่ประชดประชันส่งมาก็แดกดันส่งนางแม่ไปว่า
๏ ลูกไทเจ้าแม่เอย แม่ให้ผัวไทยแก่ลูกรา
จีนจามพราหมณ์คุลา ลูกยาจะเอามันทำไม
เชิญแม่เอาเองเถิดนางไท เป็นผัวพระราชมารดา
นางแม่ด่านางมโนห์ราเข้าให้ด้วยคาว่า “อีดอกทอง” ดังนี้
๏ เลี้ยงลูกชาวบ้านเอย อีนี่ใจแข็งใจกล้า
กูจะพลิ้วหิ้วขา หน้าตากูจะตบให้ยับไป
ไว้กูจะหยิกเอาหัวตับ ไว้กูจะยับเอาหัวใจ
ปากร้ายมาได้ใคร พวกอีชี้ร้ายชะลากา
ขวัญข้าวเจ้าแม่อา ตัวแม่ก็ทำเป็นไม่สู้
รู้มากอีปากกล้า มึงไปได้มาแต่ไหน
พระพายพัดไป สมเพชลมพัดอีดอกทอง
นางมโนห์ราหายอมนางแม่ไม่ จึงด่าย้อนนางแม่ว่า
๏ นางแม่ของลูกอา แม่มาด่าลูกไม่ถูกต้อง
ทั้งพี่ทั้งน้อง เหล่าเราดอกทองเหมือนกัน
ดอกทองสิ้นทั้งเผ่า เหล่าเราดอกทองสิ้นทั้งพันธุ์
ดอกทองเสมือนกัน ทั้งองค์พระราชมารดา
หลังจากนั้นนางมโนห์ราก็ฝ่าฝืนคำสอนของนางแม่ แล้วหนีเล่นน้ำกับพี่ๆ และบ่าวไพร่ บริวาร กระทั่งพรานบุญจับนางมโนห์ราจะเอาไปถวายพระสธุน ก็หมดต้นฉบับยุคอยุธยา
โนรา เป็นละครนอกครั้งกรุงเก่า
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ย้ำว่า ละครโนราชาตรีในภาคใต้ คือละครนอกจากรัฐอยุธยาแพร่ลงไป
มีคำอธิบาย (เมื่อ พ.ศ. 2464) ในตำนานเรื่องละครอิเหนา จะคัดมาดังนี้
“ละครโนราชาตรีที่เล่นกันที่เมืองนครศรีธรรมราชนั้น…ที่จริงได้แบบแผนลงไปจาก กรุงศรีอยุธยา คือแบบแผนละครนอกที่เล่นกันอยู่เป็นพื้นเมืองในสมัยนั้นนั่นเอง…ละคร โนราชาตรีนี้แลที่เป็นละครนอกชั้นเดิม
อันลักษณะของละครจำต้องมีตัวละคร 3 อย่าง คือตัวทำบทเป็นผู้ชายที่เราเรียกว่า นายโรงหรือยืนเครื่องอย่าง 1 ตัว ทำบทเป็นผู้หญิงเรียกว่านางอย่าง 1 ตัว สำหรับทำบทเบ็ดเตล็ด เช่น เป็นฤๅษี เป็นยักษ์ เป็นพราน เป็นยายตา และเป็นสัตว์เดียรัจฉาน เช่น ม้าและนกที่มีบทในเรื่องละคร ตลอดจนเล่นตลกให้ขบขัน เรียกว่าจำอวดอย่าง 1 ถ้าตัวละครขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไปก็เล่นไม่สนุก
ละครโนราชาตรีของไทยเราก็ดี ที่มีตัวละครแต่นายโรงตัว 1 นางตัว 1 และจำอวดตัว 1 อย่างนี้เป็นอย่างน้อยที่สุดที่จะเล่นละครได้สะดวก
ด้วยเหตุนี้จึงปรากฏมาแต่ก่อนว่าละครชาตรีชอบเล่นแต่บางเรื่องที่ตัวบทสำคัญเล่นพร้อมกันไม่เกินกว่า 3 ตัว เช่น
เรื่องพระรถเสน ตัวนายโรงเป็นพระรถเสน ตัวนางเป็นนางเมรี ตัวจำอวดเป็นม้าของพระรถเสน
หรือมิฉะนั้นก็เล่นเรื่องนางมโนห์รา ตัวนายโรงเป็นพระสุธน ตัวนางเป็นนางมโนห์รา ตัวจำอวดเป็นพรานบุณ
[เข้าใจว่าเรื่องพระรถกับเรื่องนางมโนห์รากระบวนเล่นละครผิดกัน เรื่องพระรถ นายโรงเป็นตัวบทสำาคัญ เรื่องนางมโนห์รานางเป็นตัวบทสำคัญ เพราะฉะนั้นละครโรงไหนตัวนายถนัดทำบทชาย ก็ชอบเล่นเรื่องพระรถ ถ้าถนัดทำบทหญิง ก็ชอบเล่นเรื่องนางมโนห์รา]
ละครที่ขุนศรัทธาไปหัดขึ้นที่เมืองนครศรีธรรมราช คงถนัดเล่นเรื่องนางมโนห์รา ยิ่งกว่าเรื่องอื่น เล่นให้พวกชาวเมืองดูจนชินจนเลยเรียกละครว่า “มโนห์รา” แต่เรียกตัดตัวหน้าเสียตามวิสัยของชาวนคร จึงคงรูปเรียกว่า “โนรา” มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
ละครนอกที่เล่นกันในกรุงศรีอยุธยา ชั้นเดิมก็คงจะมีตัวละครแต่โรงละ 3 คน 4 คน อย่างละครโนราชาตรี ต่อนานมาเมื่อมีคนชอบดูละครมากขึ้น ทางหาเลี้ยงชีพในการเล่น ละครสะดวกมากขึ้น จึงเกิดการแก้ไขกระบวนเล่นละครแข่งขันกันให้วิเศษขึ้นกว่าเดิม คือ เพิ่มตัวละครให้มากขึ้น และคิดเครื่องแต่งตัวละครขึ้น แล้วริเล่นเรื่องให้แปลกกว่าเดิมออกไป
บทร้องซึ่งเดิมตัวละครต้องร้องเป็นกลอนต้นโดยประดิษฐ์ของตนเอง (อย่างโนรายังร้องอยู่ทุกวันนี้) ก็มีกวีช่วยกันคิดแต่งกลอนให้เรียบร้อยเพราะพริ้งยิ่งขึ้น
บทละครครั้งกรุงเก่าซึ่งยังมีอยู่บัดนี้พอสังเกตได้ว่า ที่เป็นบทรุ่นเก่ากลอนเป็นอย่างละครชาตรี ต่อบทรุ่นหลังมาจึงเป็นกลอนแปด ถึงกระนั้นก็ยังไม่เหมือนบทละครชั้นกรุงรัตนโกสินทร์
ละครนอกที่เล่นกันในราชธานีคงเปลี่ยนแปลงกระบวนเล่นมาโดยลำดับตั้งแต่ครั้งกรุง เก่าจนในกรุงเทพฯ จึงมาเป็นอย่างละครที่เล่นกันในชั้นหลังนี้
แต่การที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงกระบวนเล่นละครในราชธานีอย่างไร ละครในมณฑลนครศรีธรรมราชอยู่ห่างไกลราชธานีไม่มีใครเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบละครแต่ครั้งกรุงเก่า ขุนศรัทธาหัดไว้อย่างไรก็คงเล่นสืบมาตามแบบเดิม จึงกลายเป็นละครโนราชาตรีไปอีก อย่างหนึ่งในทุกวันนี้”
โนรา เล่นไกรทอง
เพราะโนราไม่ใช่การแสดงเอกเทศมาแต่เดิม หากโนราคือละครนอก แต่เรียกละคร ชาตรี จึงนอกจากเล่นเรื่องนางมโนห์ราแล้วยังเล่นเรื่องอื่นๆ ได้อีก เช่น ไกรทอง ดังมีพยานในกาพย์เรื่องพระรถเมรี ของนายเรือง นาใน (หลวงพ่อเมือง วัดสุนทรวาส จ. พัทลุง) ว่า
ไปดูโนรา เล่นนักหนาเรื่องนายไกร
กุมภาชีวาลัย นายไกรได้แม่มาลา