ของฝากจากญี่ปุ่น

มีคนถามว่าไปญี่ปุ่นได้อะไรบ้าง

คำตอบคือได้อะไรต่อมิอะไรมากเลยล่ะ

นับตั้งแต่เดินทางไปถึงสิ่งที่พบ ณ สนามบินคันไซ เมืองโอซาก้า คือ ระบบขนส่งมวลชน

ระบบรางที่ญี่ปุ่นใช้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ มีสายรถไฟให้เลือกมากมาย

รถไฟมีนั่งจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง พอถึงสถานีรถไฟก็พบกับการอำนวยความสะดวก

ADVERTISMENT

นักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้เข้าที่พักแต่อยากไปเที่ยว เขาก็จัดล็อกเกอร์ใส่กระเป๋าใบใหญ่ไว้บริการ

คิดราคาต่อวัน ราคาก็ไม่แพง

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน หรือบางเมืองเช่นเกียวโตก็มีรถบัสไปส่งถึงที่

นอกจากระบบขนส่งมวลชนแล้ว บริเวณพื้นที่ฟุตปาธก็ราบเรียบ

เวลาเดินไม่ต้องกลัวขาพลิกขาแพลง

บนฟุตปาธมีเส้นทางจักรยาน บางเมือง เช่น ฮิเมจิ พื้นที่ฟุตปาธกว้างพอๆ กับพื้นที่ถนน

ตลอดเวลามีคนใช้สัญจรทั้งด้วยการเดินเท้า และขับขี่จักรยาน

เมื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยว มีคนมากเขาก็เข้าคิว

เจ้าหน้าที่คนดูแลก็แลดูคึกคัก ยิ้มแย้มแจ่มใส เห็นแล้วสัมผัสได้ว่า “เต็มใจทำงาน”

สนุกกับงานที่ทำ !

ความรู้สึกสนุกกับงานที่ทำนี่ สามารถสัมผัสได้ทุกที่ที่ไปแวะเวียน

เข้าร้านอาหารก็รู้สึกเชฟมีความสุขกับงานของเขา พนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟก็กระตือรือร้น

ไปช้อปปิ้ง ไปซื้อของ บรรดาพนักงานขายก็กุลีกุจอมาต้อนรับ

งานยุ่ง คนมาก ไม่แสดงอาการเบื่อเซ็งให้เห็น

ขณะเดียวกันภายในเมืองก็อุดมไปด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยผู้คน

สั่งอาหารด้วยตู้หยอดเหรียญ ยิ่งตู้หยอดเหรียญขายเครื่องดื่ม เห็นแทบจะทุกมุม

บรรดาผู้คนที่ไปเจอะเจอเวลาหลงก็พยายามตอบคำถาม

มีบ้างบางคนที่พูดภาษาอังกฤษชัดถ้อยความ “ไอ ด้อน โน”

แต่ส่วนใหญ่คือพยายามบอกทาง แม้จะไม่รู้ก็พยายามจะอธิบายเท่าที่เขารู้

แหม ปลื้มใจ !

แหล่งท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม อาทิ พิพิธภัณฑ์ที่เมืองโอซาก้า เขาก็มีชีวิตชีวา

ชั้นหนึ่งจัดเป็นสิ่งปลูกสร้างสมัยเอโดะ แล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวเช่าชุด สวมใส่แล้วเดินเที่ยว

แปลงกายเป็นชาวโอซาก้าในยุคเอโดะไปเรียบร้อย

เดินเที่ยวอย่างเดียวเดี๋ยวจะเบื่อ เขาก็ใช้เทคโนโลยีมาเสริมเสน่ห์

ทำให้โอซาก้ายุคเอโดะมีกลางวันและกลางคืน

เช้ามีไก่ขัน กลางวันแดดจ้า เย็นย่ำแสงแดงฉาน พอตกต่ำมีงานฉลอง จุดพลุดอกไม้ไฟ

อีกชั้นหนึ่งอธิบายประวัติโอซาก้าตั้งแต่โบราณจนถึงยุคปัจจุบัน

บ้านเรือนตัวอย่างในตู้โชว์ ช่างฝีมือเขาทำละเอียดจริงๆ

พอเวลาผ่านไป กลไกตู้โชว์ทำงาน ปรับเปลี่ยนเรื่องราวให้ผู้ชมต้องหันกลับมาสนใจ

ทั้งฟัง ทั้งอ่าน ทั้งดู ไม่รู้สึกเบื่อ ..

นักท่องเที่ยวที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น เขามีเอกสารภาษาอังกฤษแจก

แถมใครไฮเทคหน่อย เขาก็มีแอพพ์อธิบายความเป็นภาษาสากล

นอกจากนี้ยังพบว่า ชาวญี่ปุ่นเขามีนิสัยชอบ “ต่อยอด”

ของธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ช่างคิดช่างทำ แพคเกจสวยๆ มีให้เห็นดาษดื่น

เครื่องใช้ไม้สอยก็เช่นกัน มักจะมีอะไร ๆ ที่ “ต่อยอด”

อาทิ ลูกกุญแจ-แม่กุญแจ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเราๆ

แต่ญี่ปุ่นคิดแม่กุญแจที่ทำหน้าที่เก็บลูกกุญแจอีกชั้นหนึ่ง…

แม่กุญแจนี้เอาไว้ใส่ลูกกุญแจแล้วแขวนไว้หน้าที่พัก

ญาติพี่น้องหรือเพื่อนที่มาพัก หากรู้รหัสล็อกก็เปิดเอาลูกกุญแจไปไขเข้าบ้านได้

อย่างร้านอาหารแต่ละแห่งเขาจะมีกระบุงเอาไว้ใส่ของ

ลูกค้าเอากระเป๋าใส่กระบุง ไม่ต้องวางบนโต๊ะหรือเก้าอี้อีกตัวให้เปลืองที่

แวะไปเที่ยวโบราณสถานแต่ละแห่งแต่ละที่ เห็นการดูแลเอาใจใส่

วัดโบราณ พระโบราณ ปราสาทเก่าแก่ เขาบริหารจัดการซะสวย

ภาพวาดโบราณ ธรรมชาติ สวนหิน ยังคงสะท้อนวิถีชีวิต

เห็นเอกลักษณ์ที่ญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นมาเอง หลังจากรับวัฒนธรรมจีนมาระยะหนึ่ง

อีกเรื่องที่พบเห็น คือ การรักษากฎระเบียบ

การเข้า-ออกสนามบินเขาตรวจเข้ม

ถ้าเครื่องตรวจส่งสัญญาณเตือน เขาจะค้นจนพบสิ่งผิดปกติ

ทุกจังหวะที่เข้มงวด ยังคงรักษาความสุภาพ

ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ได้ซึมซับสิ่งต่างๆ ที่ยกมา

ตั้งใจไว้ว่ากลับมาเมืองไทยน่าจะเอาความรู้สึกนี้มาปรับปรุงตัว

ทั้งเรื่องรักในหน้าที่ ประณีตในงาน คิดค้นต่อยอด มีระเบียบวินัย ฯลฯ

กำลังรู้สึกดีๆ ระยะเวลาการเดินทางท่องญี่ปุ่นก็หมดลง

เครื่องบินร่อนแตะที่สนามบินสุวรรณภูมิตอนเช้ามืด ทำให้ต้องใช้บริการแท็กซี่

สมาชิก 5 คนเดินไปขนกระเป๋าใส่ท้ายรถแท็กซี่

ได้รับแจ้งจากโชเฟอร์แท็กซี่ว่า 5 คนขึ้นรถไม่ได้ครับ เพราะกฎเขาบังคับให้โดยสารไม่เกิน 4

นึกชื่นชมในใจว่า เออ ..แท็กซี่ไทยรักษากฎหมายดีเหมือนกันแฮะ

ความหวังได้เห็นไทยมีวินัย ก้าวไกลก้าวหน้าก่อเกิดขึ้น

แต่พอเจอคำแนะนำจากพี่โชเฟอร์คนเดิมที่กล่าวตามมา…

…พี่จ่ายให้ผมเพิ่มอีก 100 บาทสิ เดี๋ยวผมพาไปทั้งหมดนี่แหละ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ความฝันสลาย

เล่นตุกติกกันตั้งแต่เริ่มเหยียบแผ่นดิน

หมดกันประเทศไทย …