เมื่อมี “คนล้ม” ไม่อยากจะโยนไปให้เป็นภาระหน้าที่ของ “กรรม” ในความหมายที่ผู้คนทั่วไปเชื่อว่า มีฤทธิ์มีแรงเที่ยววิ่งไล่ตามเล่นงานคนนั้นคนนี้
เท่าที่สังเกตมา “กรรม” ตามความหมายที่ว่านั้นทำงานไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพนัก
หลายกรณีฤทธิ์อ่อนแรง วิ่งไล่ตามคนชั่วช้าได้เชื่องช้า
และอีกหลายกรณี “กรรม” ไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำหน้าที่ตอบโต้ฉับพลันทันที ซ้ำร้ายยังถึงกับหลับใหล ไม่ได้เร่ง ไม่ได้รีบติดตามสนองคนก่อกรรมจนเกิดคำว่า “ทำชั่วได้ดีมีถมไป”
มี 1 คนที่เลื่องลือมานาน
เป็น “ตำรวจ” !
ภูมิหลังความเป็นมารู้กันทั่วทั้งวงการ ตั้งแต่ยังเป็นตำรวจเด็กๆ จนเติบใหญ่ได้ตำแหน่งโตในทุกวันนี้ มีคำถามว่า มีความสามารถอะไร เก่งกาจด้านไหน สืบสวน? สอบสวน? ป้องกันปราบปราม?
ไม่เคยปรากฏชื่อชั้นในยุทธจักรสีกากี
แต่วันดีคืนดีมีนายใหญ่อุปถัมภ์กันสุดฤทธิ์
ชั่วพริบตาเดียว 1 เดียวคนนั้นก็กระโดดค้ำถ่อไปนั่งอยู่บนหัวพี่หัวเพื่อน
“1 เดียว” คนนั้นกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ
หลายคนต้องพลัดพรากลูกเมีย จากปทุมธานีไปยะลา จาก กทม.ไปหนองคาย จากสกลนครไปนราธิวาส จากสงขลาไปเหนือสุดสยาม จากตะวันออกไปชายแดนตะวันตก ที่อยู่เมืองก็ส่งไปอยู่ป่า ข้ามหัว ข้ามห้วย ข้ามภาคโกลาหล ที่สืบสวนก็เอาไปทำสำนวน
พนักงานสอบสวนถ้ามีฤทธิ์มีแรงก็เลือกลงสายสืบ หรือสายป้องกันปราบปรามได้ตามใจปรารถนา
เป็นยุคที่ทุกเรื่องราวไม่ต้องมีคำอธิบาย
เป็นยุคที่ใหญ่เกินไปจนใครแตะต้องไม่ได้
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่
แต่ดูเหมือนทุกคนก็ยอมสยบ
ได้แต่ผลักให้เป็นภาระหน้าที่ของ “กรรม”
ไม่น่าเชื่อว่า “1 เดียว” คนนั้นจะสามารถเสพลาภเสวยสุขพร้อมกับอาละวาดทำร้ายตำรวจด้วยกันมาหลายปี ยังไม่มีวี่แววว่า “กรรม” จะตามเล่นงาน
ตำรวจประสบกับความเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เคว้งคว้างไม่รู้จะพึ่งใคร
บางคนถึงกับลาออกจากราชการ
ออกไปแล้วก็แล้วกันไป การตายประชดป่าช้าเท่ากับสิ้นเสี้ยนหนาม
“1 เดียว” คนนั้นยังคงอหังการ
บันไดสู่ความเป็นใหญ่มั่นคง แข็งแรง ไม่น่าจะมีใครดับฝัน
แต่แล้วจู่ๆ มรสุมฤดูร้อนก็โหมกระหน่ำ !?!!