ที่เห็นและเป็นไป : การเมืองหลังสงกรานต์ : โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ

เพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงหยุดยาว ทำให้คิดกันว่าเรื่องราวร้อนแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้นในประเทศ โดยเฉพาะการต่อสู้ทางการเมืองที่ดูเข้มขึ้นเสียยิ่งกว่าก่อนเลือกตั้งจะลดอุณหภูมิลง

นั่นเป็นความคิดที่เกิดขึ้นโดยเอาความใส่ใจของคนทั้งหลายเป็นหลักในการประเมินสถานการณ์

แน่นอนว่าในช่วงหยุดยาว ให้ความสนใจกับการเดินทางและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณีมากกว่าย่อมทำให้อารมณ์ที่จะเข้ามาข้องแวะกับเรื่องราวและความรู้สึกทางการเมืองลดน้อยลง จนเหมือนกับสถานการณ์การเมืองสงบลง

แต่เอาเข้าจริงไม่เป็นอย่างนั้น

Advertisement

ทุกอย่างอาจจะสงบนิ่งลงจริง แต่เป็นนิ่งเพื่อรอเวลา

การต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจหลังเลือกตั้งจะยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่มีสิ่งที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องทบทวนความคิดในชัยชนะมากขึ้น

“จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องแตกหักกันวันนี้เลย” คือคำถาม

Advertisement

ต้องยอมรับกันในเบื้องต้นว่า การต่อสู้ที่ไม่ประนีประนอมทำให้ทุกฝ่ายบอบช้ำ

พรรคเพื่อไทยแม้ดูสงบ และยังยืนหยัดที่จะเดินหน้าตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ลึกลงไปแล้วรับรู้กันอยู่เองว่า “อ่อนล้า” ไม่น้อยกับปัญหาที่ถูกทำให้เกิดขึ้นทั้งจากภายในที่ยังไม่ลงตัวสนิทในเรื่องการนำ

การหาเสียงเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันแข็งขัน ความอัดอั้นตันใจหลายอย่างได้แต่กลืนไว้ก่อน เมื่อสิ้นภาระการหาเสียง ปัญหาที่กดทับไว้ค่อยๆ ปรากฏ ต่างรับรู้กันอยู่ภายในว่าเริ่มที่จะมีสภาวะที่สะท้อนว่าไปด้วยกันไม่ได้เกิดให้เห็นอยู่ไม่น้อย

ความอ่อนล้าเริ่มชัดขึ้น

พรรคการเมืองอื่นก็ไม่ต่างกัน

อนาคตใหม่นั่นเห็นชัดสุด อุดมการณ์ที่ชัดเจน พุ่งตรงไปในเรื่องที่คิดว่าเป็นอุปสรรคสำคัญสุดที่ขวางพัฒนาการของประเทศ ถูกโต้กลับจากอุดมการณ์ต่างขั้วอย่างรุนแรงไม่น้อยกว่ากัน และแม้จะมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ไม่น้อย การขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าอย่าว่าแต่เริ่มทำได้ยากเลย กระทั่งประคองตัวให้ผ่านกับดักเชิงวัฒนธรรมยังเป็นเรื่องที่ต้องประเมินกันหนักหน่วงว่ารักษาสติเพื่อประคับประคองปัญญาให้เท่าทันได้แค่ไหน

อนาคตใหม่จึงกำลังอยู่ในสภาพที่ถูกบั่นทอนจากเรื่องราวที่เกินคาดหมายอย่างหนักหน่วง

หันไปดูเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ แม้จะผ่านประสบการณ์มามากมาย แต่ดูท่าว่าแรงกดดันของปัญหารอบนี้หนักหน่วงกว่าครั้งใดๆ จากโลกที่เปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่งสูง การกระจัดกระจายของอุดมการณ์ร่วมที่การจัดการจำเป็นต้องแตกหักภายในรุนแรง

เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยสมาธิอย่างสูงยิ่งในระดับที่ไม่มีกะจิตกะใจคิดถึงเกมที่จะต้องต่อสู้กับภายนอกสักเท่าไร

ส่วนพรรคพลังประชารัฐ เมื่อความสำเร็จที่ได้รับมาไม่เท่ากับการลงทุน และการทุ่มเทสรรพกำลัง แม้ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” แต่ยังไม่นำมาสู่สถานะที่ประกาศความชอบธรรมได้อย่างเต็มปาก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น และส่งผลสะเทือนมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กระทั่งชะตากรรมที่พลิกผันของ “นายตำรวจผู้โดดเด่นแห่งยุค” ที่สร้างเสียงเล่าลือมากมาย

ได้กระตุ้นให้ตระหนักถึงอำนาจที่มีอยู่จริงของผู้นำพรรคไม่น้อย

เรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้ เป็นภาระที่ถูกกดทับไว้ด้วยวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์

ผู้คนไม่ได้นึกถึงกันมากนัก เพราะมีกิจกรรมอื่นที่ดึงความสนใจไป

แต่หลังสงกรานต์ แรงกดทับจะถูกเปิดออก และกลายเป็นสภาวะที่จะต้องตัดสินว่าจะเผชิญอย่างไร ด้วยวิธีไหน

วิธีที่แต่ละฝ่ายเลือกที่จะมาใช้เผชิญสถานการณ์ จะมีผลอย่างสูงยิ่งต่อชะตากรรมของประชาชน และอนาคตของประเทศ

สำหรับประชาชนทั่วไป ดูจะมีความหวังว่าแค่ว่า ความเย็นฉ่ำของน้ำสงกรานต์ คำอวยพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ ความรักในเผ่าพันธุ์ที่ได้สัมผัสในการกลับไปเยือนบ้านเกิดให้รับรู้การมีอยู่ของครอบครัวใหญ่แบบไทยๆ

จะทำให้ทุกคน ทุกฝ่าย ได้ทบทวนตัวเอง ว่าเป้าหมายที่ปรารถนาเพื่อตัวเองนั้นสร้างความเดือดร้อนให้กับส่วนรวมอย่างไร

ได้แค่ภาวนาให้ทุกฝ่ายมีสติพอจะไม่เป็นผู้ร่วมสร้างกระแสความรุนแรงให้เกิดขึ้นกับประเทศ

สุชาติ ศรีสุวรรณ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image