| ผู้เขียน | สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม |
|---|
ท่าจะวุ่นๆ กับการประมูลโครงการพัฒนาสนามบิน “อู่ตะเภา” และเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่ากว่า 2.9 แสนล้านบาท บนพื้นที่กว่า 6.5 พันไร่ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (พีพีพี) ระยะเวลา 50 ปี
เป็นอีกโครงการสำคัญในเขตส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
โดยจะยกระดับให้ “อู่ตะเภา” เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของไทย ต่อจาก “ดอนเมือง” และ “สุวรรณภูมิ” รวมทั้งพัฒนาเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก และศูนย์กลางการบินในภูมิภาค
เมื่อ 21 มีนาคมที่ผ่านมา “กองทัพเรือ” ในฐานะเจ้าของโครงการ เปิดรับข้อเสนอตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยแต่ละรายต้องยื่น 4 ซอง คือ 1.คุณสมบัติทั่วไป 2.ข้อเสนอด้านเทคนิค 3.ข้อเสนอด้านราคา และ 4.ข้อเสนออื่นๆ
ปรากฏว่ามี 3 กลุ่มร่วมยื่นซอง กลุ่มแรกคือกลุ่มกิจการร่วมค้า “ธนโฮลดิ้ง” ได้แก่ บริษัท ธนโฮลดิ้ง (เครือเจริญโภคภัณฑ์)-บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์-บริษัท ช.การช่าง-บริษัท บี.กริม จอยน์ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง และบริษัท โอเรียนท์ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล โดยมีพันธมิตรโอเปอเรเตอร์สนามบินคือ “ฟราพอร์ต เอจี แฟรงก์เฟิร์ต แอร์พอร์ต เซอร์วิสเซส เวิลด์ไวด์” จากเยอรมนี
2.กลุ่ม “แกรนด์คอนโซเตียม” ประกอบด้วย บริษัท แกรนด์แอสเสท โอเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (กลุ่มบริษัทพร็อพเพอร์ซี่ เพอร์เฟค)-บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด-บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย)-บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จากจีน โดยมีพันธมิตรบริหารสนามบินคือ “จีเอ็มอาร์ แอร์พอร์ต” จากอินเดีย
3.กลุ่มกิจการร่วมค้า “บีบีเอส” มีบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์-บริษัท การบินกรุงเทพ-บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์ คอนสตรัคชั่น โดยมีสนามบินนาริตะ เป็นพันธมิตรด้านโอเปอเรเตอร์สนามบิน
วันยื่นซอง กลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” ถือฤกษ์เวลา 12.20 น.ยื่นเป็นรายแรก ตามมาด้วย กลุ่ม “บีบีเอส” เวลา 13.00 น. และกลุ่ม “แกรนด์ คอนโซเตียม” เวลา 13.30 น.
ก็ไม่รู้ว่าทำไมทั้ง 3 กลุ่มถึงไปยื่นซองเอาตอนบ่าย ทั้งที่เปิดให้ยื่นตั้งแต่เวลา 09.00 น. จะถือฤกษ์ ถือชัยอะไรก็มิทราบ
แล้วแต่ละรายมีเอกสารจำนวนมาก ต้องใช้รถบรรทุกขนกันมาเลยทีเดียว
แต่ไม่รู้เกิดผิดพลาดอะไรกับทางกลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” ที่มายื่นซองเป็นรายแรก แต่เมื่อถึงเวลาเส้นตาย 15.00 น. กลับไม่มีซอง 3 ที่เป็นข้อเสนอด้านราคา ว่ากันว่าช้าไปเฉียดฉิว 2 นาที
แต่แค่ 2 นาที คู่แข่งที่มายื่นซองด้วยจับเวลาไว้ได้ เลยใช้เป็นหลักฐานยื่นร้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ ว่า กลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” ยื่นซองไม่ทันเวลาที่กำหนด
ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกฯต้องมีมติแจ้งไปยังกลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” ว่าจะไม่รับพิจารณาซอง 3 ทางกลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” จึงไปฟ้องศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว ก็ไม่รู้ว่าศาลจะมีคำสั่งว่าอย่างไร
แม้ทางกลุ่ม “ธนโฮลดิ้ง” ยื่นซอง 1 และ 2 ได้ทัน และสามารถผ่านด่านได้ทั้ง 2 ซอง แต่ก็ต้องตกม้าตายในซองที่ 3 เท่ากับแพ้ฟาวล์ไปโดยปริยาย
แต่กระนั้น ก็ต้องรอลุ้นว่าอีก 2 กลุ่มที่แม้จะยื่นซองได้ครบทันเวลา แต่ไม่รู้ว่าจะผ่านด่านหรือไม่ เพราะทีโออาร์มีเกณฑ์เรื่องคุณสมบัติ และเทคนิคเข้มข้นมาก
นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตกับกลุ่ม “บีบีเอส” ที่แต่เดิมไม่มีชื่อพันธมิตรโอเปอเรเตอร์สนามบิน แต่จู่ๆ มีชื่อ “สนามบินนาริตะ” จากญี่ปุ่นโผล่มาเมื่อไรก็ไม่รู้ หากมีชื่อหลังยื่นซองแล้ว จะผิดทีโออาร์หรือไม่
ต้องรอดูว่าการประมูลโครงการยักษ์นี้จะลงเอยอย่างไร ใครจะคว้าพุงปลา “อู่ตะเภา” นี้ไปได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยึดผลประโยชน์ที่ประเทศชาติโดยรวมจะได้สูงสุดเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เปิดประมูลให้พอเป็นพิธี แล้วหลับตาปล่อยให้เอกชนได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ฝ่ายเดียว
สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม
