⦁…วันที่ 4-6 พฤษภาคม เป็นวันมหามงคล วันที่ 4 พฤษภาคม มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10” และเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
⦁…วันที่ 5 พฤษภาคม มีพระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธยและสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พสกนิกรชาวไทยทุกคนต่างปีติอย่างล้นพ้น การดำเนินการทุกขั้นตอนสวยงาม สมพระเกียรติ และรอชมพระบารมีในวันที่ 6 พฤษภาคม ตอนเสด็จออกสีหบัญชร
⦁…วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นต้นไป การเมืองไทยเริ่มเห็นเค้าลางรัฐบาลใหม่ เมื่อ กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต และวันรุ่งขึ้นมีกำหนดว่าจะประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากนั้นพรรคการเมืองที่รวบรวมเสียงได้ “ข้างมาก” ย่อมมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล
⦁…วันที่ 8 พฤษภาคม นอกจาก กกต.จะมีกำหนดการประกาศ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว อีกเรื่องที่ต้อง เตรียมล้างหูฟัง คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติเห็นว่า ม.128 พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. เกี่ยวกับวิธีคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์นั้นขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ผลจะออกมาเป็นประการใด และผลที่ออกมาจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง ต้องอดใจรอคอย
⦁…การจัดตั้งรัฐบาลผูกโยงกับภาวะเศรษฐกิจของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เพราะในช่วงการเปลี่ยนผ่าน บรรดากระทรวงต่างๆ ต้องรอการตัดสินใจผลักดันโครงการใหญ่ๆ ซึ่งการผลักดันกับรัฐบาลใหม่ย่อมส่งผลแน่นอนมากกว่าเสนอรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้มีข่าวว่าหลายกระทรวงที่เจ้ากระทรวงยื่นใบลาออก เนื่องจากมีชื่ออยู่ในบัญชี 250 ส.ว. อาทิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง นายกฯ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
⦁…วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แย้มมาแล้วว่า บัญชีชื่อ ส.ว.นั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯวันที่ 10 พฤษภาคม แสดงว่าอีกไม่นาน ประเทศไทยจะมีทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งจะนำไปสู่การมีรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่ำลือกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีตราจองไว้นานแล้ว ส่วนจะเป็นไปตามที่บิ๊กตู่หวังหรือไม่ก็รอดูกันเอาเองก็แล้วกัน
นิวรอน