⦁…ตอนตอบตกลงร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐนั้น พรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคสุดท้ายที่แสดงท่าที แต่เมื่อตกลงกันแล้ว ดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคแรกที่มีความชัดเจนเรื่องรัฐมนตรี
ในโควต้าที่ได้รับ
⦁…ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ส่งรายชื่อ 7 ว่าที่รัฐมนตรี ของพรรคไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พิจารณาแล้ว ประกอบด้วย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
⦁…ขณะที่พรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำซึ่งดูแววว่าจะลงตัวเป็นพรรคแรก โดย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พปชร. บอกว่าได้ทยอยส่งรายชื่อรัฐมนตรีไปเช็กประวัติแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีแรงกระเพื่อมจากภายในอยู่ ล่าสุด เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. แถลงถามหาเก้าอี้ให้กับ ส.ส.อีสานตอนบนของ พปชร.
⦁…ข้อแถลงระบุว่า “ทีมบริหาร พปชร.กำลังขับเคลื่อนจัดตั้งรัฐบาล แต่กลุ่ม ส.ส.อีสาน 20 จังหวัด มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งใน ครม.” เพราะเมื่อรวมภาคอีสานตอนบน ที่มีศูนย์อุบลราชธานี และศูนย์ขอนแก่น เมื่อนำคะแนนที่ พปชร.ได้รับเมื่อเลือกตั้งรวมกัน 1,364,761 คะแนน คิดเป็น ส.ส. 19 คน หัก ส.ส.เขต 2 คน เหลือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ทางคณะกรรมการจัดสรรตำแหน่งใน
ครม.จะว่ายังไง
⦁…พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) ที่มี ดำรงค์ พิเดช เป็นหัวหน้าพรรค เป็นอีกความเคลื่อนไหวที่ร้องเรียนการจัดสรรตำแหน่งครั้งนี้ เพราะไม่มีส่วนเข้าไปผลักดันนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ขยับจะไปเป็นฝ่ายค้านอิสระในสภาถ้ายังไม่มีการตอบสนอง พร้อมกันนั้นยังมีการประสานงานกับพรรคชาติพัฒนา ซึ่งยังไม่มีสัญญาณคอนเฟิร์มเก้าอี้มาจาก พปชร. เช่นกัน หาก 2 พรรคนี้ประกาศถอยห่าง เสียงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องลบออกไปอีก 5 เก้าอี้
⦁…ประเด็น “เสียงปริ่มน้ำ” ตามติดจองเวรรัฐบาลใหม่ไปเรื่อยๆ แค่การนับองค์ประชุมก็ทำให้สภามีปัญหาแล้ว นี่ยังมีพรรคการเมืองที่พร้อมจะสนับสนุนก็ได้ไม่สนับสนุนก็ได้อยู่ด้วย ยิ่งสร้างความไม่มีเสถียรภาพให้มากขึ้น
⦁…แค่เริ่มต้นสมัยประชุมก็เริ่มๆ จะเบี้ยวข้อกำหนดตามกฎหมายที่บอกให้ นายกฯ และรัฐมนตรีต้องมาชี้แจงกระทู้ต่อสภาด้วยตัวเองกันซะแล้ว อย่าลืมว่าข้อเรียกร้องนี้มีมาตั้งแต่สมัยสภาครั้งที่แล้ว ซึ่งคนที่อยู่ในรัฐบาลชุดนี้เคยอยู่ และหลายคนเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารให้เกียรติสภา ด้วยการมาชี้แจง ดังนั้นอย่าคิดเปลี่ยนแปลงข้อบังคับเลย เดี๋ยวจะยิ่งทำให้คนรู้สึกยี้ขึ้นไปอีก
นิวรอน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่