กรณี ธรรมกาย บทบาท ของ ‘ดีเอสไอ’ ละเอียด อ่อนไหว

ไม่ว่าข่าวมีการส่งอากาศยานไร้คนขับหรือ “โดรน” ไปบินเหนือบริเวณวัดพระธรรมกาย ไม่ว่าข่าวการเตรียมสนธิกำลังตำรวจ ทหารกว่า 2,000 นาย

ล้วนไม่เป็น “ผลดี”

เหมือนกับเป้าหมายต้องการวาดภาพ ต่อแขนขาความน่ากลัวให้กับ “ธรรมกาย” แต่ผลจะสะเทือนกลับไปยัง “ดีเอสไอ”

เข้าทำนอง ทำ “เรื่องเล็ก” ให้กลายเป็น “เรื่องใหญ่”

Advertisement

ยิ่งเลอะเทอะเลื่อนเปื้อนไปถึงระดับมีการตรวจสอบ “ธุรกรรม” ทางการเงินของผู้มีส่วนสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ ค้ำจุน

ยิ่งจะทำให้เรื่อง “บานปลาย-ใหญ่” ยักษ์

ไม่ว่าจะหลุดออกมาจากสำนัก “ข่าวกรอง” สำนักไหน ไม่ว่าจะเป็นการป้อน “ข้อมูล” ผ่านปัญญาประดิษฐ์ของบุคคลประเภทไหน

Advertisement

คึกคักก็แต่เมื่อ “พาดหัว” แต่ผลสะเทือนนั้น “ลึกซึ้ง”

คดีความในทางอาชญากรรมธรรมดาแบบ “ฟอกเงิน” หรือ “รับของโจร” ก็บานทะโรคเข้าสู่พรมแดนในทาง “การเมือง” และในทาง “การศาสนา”

ยิ่งละเอียดอ่อนก็จะยิ่ง “อ่อนไหว”

ลําพังเพียงภาพของพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม แห่งวัดอ้อน้อย นครปฐม เมื่อประสานเข้ากับภาพของนายไพบูลย์ นิติตะวัน แห่งกลุ่ม 40 ส.ว.ก็หวาดเสียวอย่างยิ่ง

เมื่อมีภาพ นพ.มโน เลาหวณิช ผนวกรวมเข้าไปอีก

นัยประหวัดในเชิง “จินตภาพ” ทางการเมืองย่อมโยงสายยาวไปยังขบวนการ “ชัตดาวน์” เมื่อเดือนมกราคม 2557 ย่อมยากจะลบเลือนได้โดยง่าย

ท่านเหล่านี้หรือ คือ “กองหลัง” อันแข็งแกร่งให้กับ “ดีเอสไอ”

จึงไม่แปลกที่กระบวนท่าของ “ดีเอสไอ” จะทำให้เห็นถึงกระบวนท่าอันมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และกระบวนท่าอันมาจาก กปปส.ก่อนรัฐประหาร เดือนพฤษภาคม 2557

ปฏิบัติครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นการ “ขยายผล”

เพียงแต่เป้าหมายมิใช่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย หากแต่เป็นวัดพระธรรมกาย หากแต่เป็นพระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย)

แล้วที่สุดก็จะไปตรึงอยู่ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)

แล้วที่สุดเรื่องของวัดพระธรรมกายกับเรื่องในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชก็กลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

จากเรื่องของ “การเมือง” ก็เข้าสู่เรื่องของ “ศาสนา”

หาก “ดีเอสไอ” ยังมองไม่เห็นในเรื่องอัน “ละเอียดอ่อน” และในเรื่องอันมากด้วย “ความอ่อนไหว” อย่างยิ่งยวด ขอให้นึกถึงคู่เปรียบเทียบ

1 คือ ภาพของพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ “พุทธะอิสระ”

1 คือ ภาพของวัดพระธรรมกาย ภาพของพระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย) และภาพของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)

ภาพของพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม คือ “ชัตดาวน์” กทม.และ “หน่วยราชการ”

ภาพของพระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย) คือ ภาพของสมณะซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งศิษย์วัดพระธรรมกาย

มิใช่เรือนสิบ มิใช่เรือนร้อย หากแต่เป็นเรือนแสนและเรือนล้าน

ภาพของพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม คือ การได้รับความคุ้มครองจาก “มือปืนป๊อปคอร์น” ระหว่างเคลื่อนไหวขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557

ภาพของพระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย) คือ ภาพแห่งการนั่งสมาธิ

ทั้งนี้ แทบไม่จำเป็นต้องนำจริยาวัตรของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) แห่งวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งดำรงอยู่ในสถานะผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช

พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม คือ พันธมิตรของ “ดีเอสไอ”

พระเทพญาณมหามุนี (ธัมมชโย) และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) คือเป้าหมายที่จะต้องเข้าไปจัดการ

เพียงแต่คิดก็ “หวาดเสียว” อย่างยิ่ง

เรื่องของ “คดีความ” ในเบื้องต้น ปัจจุบันได้ขยายและบานปลายกลายเป็นเรื่องในทาง “การเมือง” ไปแล้ว

เป็นการเมืองอันมิได้เกี่ยวกับ “พรรค” หรือการเคลื่อนไหวทางการเมือง หากแต่เป็นการเมืองที่ทะลวงลึกไปยังความเชื่อมั่น ศรัทธาในทาง “ศาสนา” ที่ซึมลึกอยู่ในความคิดของคนไทย

ไม่น่าเชื่อว่า “ดีเอสไอ” จะทำให้ “บานปลาย-ใหญ่” ได้เพียงนี้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image