เดินหน้าชน : จับตาลีลา‘บิ๊กตู่’ โดย : ศุกร์ มังกร

จับตาการประชุมรัฐสภาเพื่อให้รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลง “นโยบาย” 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้

ภายใต้ “กฎกติกา” ใหม่ที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการก่อนเข้าไปบริหารประเทศ

โดยมี ส.ส.-ส.ว.เข้าร่วมรับรู้-รับฟังด้วยว่ารัฐบาลจะบริหาร-จัดการประเทศไปในทิศทางใด

นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริงได้หรือไม่?

Advertisement

และคุ้มค่ากับการใช้งบประมาณเพียงใด!

เพื่อไม่ให้ใช้กันมั่วซั่ว เพ้อฝัน ปั่นตัวเลข เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ระบบการตรวจสอบที่พิกลพิการหรือไม่?

ซึ่งนโยบายรัฐบาลนั้นจะรวบรวมจาก 19 พรรคร่วม แล้วนำไป “ยำ” รวมกัน

Advertisement

ที่กำหนดมอบเล่มฉบับสมบูรณ์ให้คณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้

ขณะที่บรรดาสมาชิกรัฐสภาจะทยอยได้รับไปพร้อมๆ กัน

ซึ่งฝ่ายค้านจะต้องทำการบ้านอย่างหนัก ในการศึกษา หาข้อมูล รายละเอียด ในเนื้อหา สาระ เพื่อนำไปเป็นประเด็นในการอภิปรายเพราะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนัก

นี่อาจเป็น “กลยุทธ์” ชิงความได้เปรียบของรัฐบาล!?

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ออกมาดักคอ ระบุว่าการแถลงนโยบายมิใช่การอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

ขานรับกับเสียงจาก “วุฒิสภา” และ “วิปรัฐบาล” ที่มองว่าการแถลงนโยบายใช้เวลาแค่ 2 วันก็น่าจะเพียงพอ

ทั้งๆ ที่ฝ่ายค้านเองอยากให้ประธานรัฐสภา บรรจุวันที่ 24 กรกฎาคม เพิ่มเข้าไปอีก 1 วัน

แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง!

โดยนโยบายรัฐบาลที่แพลมๆ ออกมาบ้าง และพร้อมจะทำทันทีเน้นไปที่การแก้ไขปัญหา “ปากท้อง-ลดความเหลื่อมล้ำ” ภายใน 1 ปีแรกของการบริหารประเทศซึ่งมี 12 เรื่องเร่งด่วน

อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนที่ต้องสานต่อ พักหนี้เกษตรกร มารดาประชารัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ ที่ส่อเค้าจะเป็นหมัน ประกันราคาสินค้าเกษตร กัญชาเสรี แก้ปัญหายาเสพติดและความไม่สงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ภัยแล้ง-อุทกภัย เป็นต้น

นี่เป็นเสมือน “สัญญาประชาคม” ของรัฐบาล!

ขณะที่ฝ่ายค้านเองก็ตระเตรียมข้อมูลกันคึกคักเป็นพิเศษเพราะถือเป็นการประเดิมการทำงานครั้งแรก

มีการจัดข้อมูล ปัญหา เป็นระบบ ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ความมั่นคง และการกระจายอำนาจ

แถม “ติวเข้ม” บรรดา “ขุนศึก” ก่อนอภิปราย โดยมี “พี่เลี้ยง” ฝีปากกล้าอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายอดิศร เพียงเกษ และ นายจาตุรนต์ ฉายแสง คอยให้คำปรึกษาแนะนำ

นอกจากนี้ ยังเจาะลึกพุ่งเป้าไปยัง 14 คณะรัฐมนตรี ซึ่งแยกแยะเป็น 4 กลุ่มใหญ่ดังนี้ หนึ่ง กลุ่ม 3 ป. หนึ่ง กลุ่มรัฐมนตรีที่มีคดีค้างเก่า หนึ่ง กลุ่มผู้ต้องหาคดีกบฏ และหนึ่ง กลุ่มถือหุ้นสื่อ

ซึ่งอาจไม่ต่างไปจากการเปิดศึก “ซักฟอก” ก็ว่าได้?

แต่ก็อย่างว่าการแถลงนโยบายครั้งนี้ไม่ต้องลงมติ มิฉะนั้น “เรือเหล็ก” ลำนี้อาจมีน้ำกระฉอกเข้าทำให้ใจหายใจคว่ำได้เหมือนกัน ในสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเช่นนี้

กระนั้นเป้าหมายสำคัญน่าจะเป็นเพียงแค่เปิด “บาดแผล” ขึ้นมาเรียกน้ำย่อยเท่านั้น

แต่ศึกหนัก คือการยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสิ่งไม่ถูกต้อง ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การทุจริตคอร์รัปชั่น การใช้อำนาจที่ขาดหลักนิติธรรม ตั้งแต่เกิดรัฐประหารเป็นต้นมา

ดังนั้น ศึกครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่ซ้อมโหญ่ที่ “บิ๊กตู่” จะต้องแสดง “กึ๋น” ออกมา ทั้งพลังความสามารถ สติปัญญา และอารมณ์ ผ่าน ลีลา สีหน้า ท่าทาง การควบคุมอารมณ์ ที่จะสลัดคราบนายกฯ คสช.คนเดิม เป็น ภาพนักการเมืองมืออาชีพที่มีวุฒิภาวะได้หรือไม่?!

เป็นเรื่องที่น่าติดตาม!?!

ศุกร์ มังกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image