เดินหน้าชน : จากงบสู่เงิบ : โดย สัญญา รัตนสร้อย

รูดม่านปิดฉากเรียบร้อยโรงเรียน “ประยุทธ์ 2/1” กับการแถลงนโยบายของรัฐบาล การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน ถือว่าอยู่ในระดับหอมปากหอมคอของรัฐสภาไทย

บรรยากาศ 2 วัน 2 คืนเป็นอย่างไร คอการเมืองที่ติดตามคงได้เห็นกันไปแล้ว ใครเหนือกว่า ใครเพลี่ยงพล้ำ ให้คะแนนกันอย่างไร ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับรสนิยมแต่ละขั้วการเมือง

ที่แน่ๆ ทั้งรัฐบาล ทั้งฝ่ายค้านต้องเหนื่อยกันต่อ

ในรัฐบาลมีภารกิจเดินหน้าเต็มตัวแปรนโยบายที่หลอมรวมมาจากพรรคร่วมที่หาเสียงไว้กับชาวบ้าน มาปฏิบัติให้เห็นผล

Advertisement

เอาเฉพาะหน้าหนีไม่พ้นนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่องที่ประกาศไว้ คัดเน้นๆ เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ เรื่องปากท้องประชาชน

พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลสัญญาไว้ มีอาทิ พรรคพลังประชารัฐ ประกันราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าวเจ้า 12,000 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน เพิ่มสิทธิผู้รับบัตรคนจน แจกค่าน้ำ 100 บาทต่อเดือน ค่าไฟฟ้า 230 บาทต่อเดือน เงินซื้อสินค้า 500 บาทต่อเดือน เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน โครงการมารดาประชารัฐ ตั้งท้องรับเงิน 3,000 บาทต่อเดือน ค่าคลอด 10,000 บาท ค่าดูแลลูก 2,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 6 ปี

พรรคประชาธิปัตย์ ประกันรายได้เกษตรกร ประกันรายได้แรงงานไม่ต่ำกว่า 120,000 บาทต่อปี เบี้ยผู้ยากไร้ 800 บาท/เดือน เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อเดือน เกิดปั๊บรับเงินแสน

Advertisement

พรรคภูมิใจไทย ตั้งกองทุนข้าวเพิ่มรายได้ชาวนา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน มีเงินเดือนประจำ 2,500-10,000 บาท

เพียงหนังตัวอย่างที่ต้องใช้เม็ดเงินอัดฉีดลงไป หากรวมสิ่งที่รับปากชาวบ้านไว้ทั้งหมด สำนักงบประมาณประเมินคร่าวๆ ต้องใช้อย่างต่ำ 2-3 แสนล้านบาท ต้องไปควักจากงบประมาณประจำปี

ย้อนไปดูกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ครม.ชุดก่อนอนุมัติไว้ที่ 3.2 ล้านล้านบาท ลำพังรายจ่ายประจำประเภท เงินเดือน ค่าจ้าง บริหารงานประจำของส่วนราชการ ตกเข้าไปแล้ว 2.35 ล้านล้านบาท ยังมีรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 8.76 หมื่นล้านบาท รายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลัง 6.27 หมื่นล้านบาท

เหลือรายจ่ายลงทุน 6.91 แสนล้านบาท ส่วนนี้ได้ก่อหนี้ผูกพันในโครงการปีก่อนหน้าไว้แล้ว เหลือเม็ดเงินจะนำมาใช้ลงทุนใหม่รวมถึงโครงการที่หาเสียงไว้เพียง 7-8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำนักงบประมาณจะให้แต่ละกระทรวงยื่นคำขอใช้งบประมาณ ต้องการใช้เงินเท่าไหร่ก็เสนอขึ้นมา

ต้องทราบด้วยว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายของทุกปี หน่วยราชการมักยื่นเสนอขอเงินเกินกรอบที่ตั้งไว้อยู่แล้ว ต้องมาปวดหัวตัดออกกันวุ่นวาย

รอบนี้ยังจัดสรรเงินลงโครงการหาเสียงอีกต่างหาก วงเงินยิ่งบานปลายมหาศาล

กระทรวงที่ตัดแบ่งให้พรรคร่วมดูแลก็ต้องปกป้องงบประมาณของตัวเอง โดยเฉพาะคำสัญญาที่รับปากประชาชน

การตัดสินใจสุดท้ายตกอยู่กับนายกฯประยุทธ์ ต้องหั่น ตัด ทอน ให้อยู่ในกรอบงบประมาณให้ได้

ลำพังเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ถือเป็นเทศกาลสำคัญของพรรคฝ่ายค้านถูมือรอ ลับฝีปาก จ้องถล่มรัฐบาล

ในซีกรัฐบาลยังต้องวัดใจ ย้อนไปเมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์แบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วงฟอร์มรัฐบาล ก็ทำให้บางพรรค บางกลุ่ม อยู่ในสภาพ “กลืนเลือด” มาแล้ว

ขืนจัดงบประมาณให้แต่ละกระทรวงไม่สมน้ำสมเนื้อ หรือถูกมองเลือกปฏิบัติ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

งบประมาณไม่ผ่าน รัฐบาลไปต่อไม่ได้

ศึกนอกว่าหนัก ศึกในก็ใช่จะดูเบา

สัญญา รัตนสร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image