“สลากภาพ 12 นักษัตร” ที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ “บอร์ดสลาก” มีมติเคาะ
เลือกให้เป็นสลากรูปแบบใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อน เรียกเสียงฮือฮาแก่บรรดาคอหวย คนที่ชอบเสี่ยงโชค
เบื้องต้นรูปแบบของสลากแบบจะใช้ภาพ 12 นักษัตรแทนตัวเลข โดยกำหนดการเล่นเป็น 4 ช่อง ขายในราคา 50 บาท การถูกรางวัลจะแบ่งเป็น รางวัล 4 ภาพตรง คือต้องตรงภาพ ตรงหลัก และรางวัล 4 ภาพสลับ คือตรงภาพแต่สลับหลัก
จะออกรางวัลทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน แยกจากสลากกินแบ่งรัฐบาล ส่วนตัวเงินรางวัลที่ทางกองสลากอธิบายนั้น จะขึ้นอยู่กับยอดขายในสัดส่วน 60% แบ่งเป็น รางวัล 4 ภาพตรง 50% และรางวัล 4 ภาพหลัก 50%
เหตุผลหลักๆ ของการเคาะเลือกสลากภาพตามที่ ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุนั้น บอร์ดสลากคาดหวังว่าจะช่วยลดปัญหาสลากใบเกินราคา เพิ่มทางเลือกคนซื้อ แก้ปัญหาหวยใต้ดิน ลดการเล่นการพนันผิดกฎหมาย และคาดว่าจะลดการซื้อหวยใต้ดินได้ถึง 1 แสนล้านบาท เพราะจากการศึกษาช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าหวยใต้ดินสูงถึง 5 แสนล้านบาท
การออกสลากภาพนี้ถูกจับตาว่าจะตอบโจทย์ของกองสลากที่ต้องการออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่มาแก้ปัญหา “หวยใต้ดิน” และ “สลากเกินราคา” ได้จริงหรือไม่??
อย่างกรณี “การขายสลากเกินราคา” ช่วงสมัยรัฐบาล คสช.ที่ผ่านมามีการประกาศเอาจริงเอาจัง จับกุมและทำการเปรียบเทียบปรับบรรดาพ่อค้าขายหวยเกินราคา การออกสลากเลขชุด 2 ใบ แต่ก็ยังเหลวที่จะแก้การขายหวยเกินราคา
ส่วนเรื่องของ “หวยใต้ดิน” นั้น การออกสลากภาพ 12 นักษัตรมาแข่งคงยากที่จะทำให้คนเลิกซื้อหวยใต้ดินที่ออกกันทุกวัน
การแก้ปัญหาเรื่องนี้ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องจริงจังที่จะกวาดล้างด้วย
เพราะต้องยอมรับว่าหวยใต้ดินมีมาช้านาน การปราบปรามไม่จริงจัง ทำให้ปัจจุบันเม็ดเงินหมุนเวียนปีละหลายแสนล้านบาท
อีกทั้งหวยใต้ดินยังมีความเชื่อมโยงของเจ้ามือหวยกับผู้มีอิทธิพล และข้าราชการในพื้นที่
นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ด้านการศึกษาอุตสาหกรรมการพนัน สะท้อนว่า “การออกสลากภาพ 12 นักษัตรจะแก้หวยใต้ดินไม่ได้แน่นอน เพราะแบบหนึ่งเป็นภาพ อีกแบบเป็นตัวเลขทดแทนกันไม่ได้ รวมถึงที่บอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาพนันออนไลน์
รวมถึงสลากเกินราคาก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะนิสัยคนเล่นสลากออนไลน์ต้องการรู้ผลเร็ว คงไม่อยากซื้อสลากนักษัตรที่ออกเดือนละ 2 ครั้ง
ส่วนการแก้ปัญหาหวยใต้ดิน ควรจะทำสลากเป็นตัวเลข 2 ตัว 3 ตัว หรือฟื้นหวยบนดินขึ้นมา”
จากตัวเลขของศูนย์วิเคราะห์ Customer Insights by TMB Analytics ที่เผยแพร่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าเฉพาะลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน คนไทยประมาณ 20 ล้านคน หรือ 1 ใน 4 ของคนไทย ซื้อแต่ละปีรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาท เยอะกว่ามูลค่าการซื้อกองทุน LTF และ RMF ถึง 3 เท่า หรือเท่าๆ กับเม็ดเงินลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่เพิ่งเปิดประมูลไป
การออกสลากภาพแม้จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐ ซึ่งเบื้องต้นกองสลากประเมินว่าจะขายได้ไม่น้อยกว่างวดละพันล้านบาทนั้น แต่ก็น่าห่วงว่าจะเป็นการเพิ่มรูปแบบการพนันมอมเมาคนไทยหรือไม่
ทั้งหมดนี้คงต้องชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียกันให้ดี
สุพัด ทีปะลา