สถานการณ์กำลังคั้นกลั่นสภาพความเป็นจริงอันดำรงอยู่ภายในรัฐบาล ภายในพรรคพลังประชารัฐออกมาชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
1 สถานการณ์ก่อนวันที่ 5 มิถุนายน
อันเป็นเส้นตายที่จะต้องได้รับคำตอบจากพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีความพร้อมจะขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
วันนั้นเด่นชัดยิ่งว่าการตัดสินใจไม่ได้มาจาก “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่าจะเป็น นายอุตตม สาวนายน ไม่ว่าจะเป็น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ล้วนรอการเซย์เยสจาก “ภายนอก” พรรค
รอปฏิบัติตาม “บัญชา” อย่างเดียว
1 สถานการณ์หลังมีความเด่นชัดว่าเกิดความผิดพลาดจากการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของ ครม. เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม
สถานการณ์ก่อให้เกิด “อาการ” กับ “พรรคจิ๋ว”
ความจริง สถานการณ์ในห้วงของการต่อสายหาพรรคร่วมรัฐบาล หากจับปฏิกิริยาและท่าทีจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ก็จะสัมผัสได้
สัมผัสได้ว่ามองข้าม “พลังประชารัฐ”
ความหมายก็คือ มองข้าม นายอุตตม สาวนายน มองข้าม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ หรือแม้กระทั่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
นั่นก็คือ มองไปยัง “คสช.”
พอเกิดกรณีถวายสัตย์ปฏิญาณตนพร้อมๆ กับสภาวะไม่ลงตัวต่อตำแหน่งทางการเมืองระดับกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เลขานุการ และที่ปรึกษา
อาการสะท้อนผ่าน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
เป้าหมายคือไม่พอใจ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าไม่สามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นที่พอใจ
แม้กระทั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็หงุดหงิด
อย่าได้แปลกใจหากจะมีข่าวการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่าได้แปลกใจหากว่าเป็นการส่งใบสมัครผ่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
เท่ากับข้าม หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเข้าไปอยู่ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์
นั่นก็คือ หัวหน้าพรรคตัวจริง
เหมือนที่ครั้งหนึ่ง นายจาตุรนต์ ฉายแสง เคยเป็นประธานคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ
เหมือนที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยเป็นที่พรรคเพื่อไทย
ข่าวนี้ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเป็นการโยนหินถามทาง ความหมายย่อมหมายความว่าปัญหาในพรรคพลังประชารัฐเกินกำลัง 4 ยอดกุมารไปแล้ว
ถึงเวลาสำหรับตัวจริง เสียงจริง ออกโรง
แม้จะผ่านสถานการณ์ขานชื่อในวันที่ 5 มิถุนายนมาแล้วด้วยคะแนน 500 เสียง แม้จะผ่านสถานการณ์ถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 16 กรกฎาคม มาแล้ว
และผ่านการแถลงนโยบายระหว่าง 25-27 กรกฎาคม
แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็หกคะเมนตีลังกาอย่างหมดรูปในสถานการณ์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ทำท่าทีว่าอาจต้องนับ 1 ใหม่
ตรงนี้แหละที่ถึงเวลาสำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
