โรคติดเชื้อทางอารมณ์

ปฏิบัติการของ สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ถ้าจะว่าไป เนื้อหาสาระน่าสนใจยิ่งกว่าท่วงทำนองและอุปนิสัย

แต่กล่าวกันตามธรรมชาติของคนเรา “อารมณ์” มักจะเป็นธงนำ

อารมณ์ไหลมาเทมาก่อนเหตุผลเสมอ

ในการทำหน้าที่ต่างๆ จึงต้องระมัดระวัง

Advertisement

“ท่วงทำนอง” ท่าที หรืออารมณ์อาจทำให้ “เสียงาน”

“สิระ” กับคณะได้รับการร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหรู ที่หาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

กล่าวในแง่จุดมุ่งหมาย ในฐานะ “ส.ส.” สิระกับคณะคงตั้งใจจะไปทำหน้าที่ปกป้องพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าที่บริเวณนั้นเป็นเนินเขา ชาวบ้านเคยปลูกป่าเอาไว้แล้วถูกทำลาย พอฝนตกน้ำก็จะชะเอาหน้าดินสไลด์ลงใส่พื้นที่ชาวบ้าน

Advertisement

ต่อมามีการออกเอกสารสิทธิบริเวณเนินเขานั้นพร้อมกับมีคอนโดฯหรูผุดขึ้น

ว่ากันว่าทั้งเอกสารสิทธิของที่ดินและการออกใบอนุญาตก่อสร้างยังมีเงื่อนงำต้องพิสูจน์ทราบ

“สิระ” อาจขนลุกขนพองกับสถานะของ ส.ส.ในสมัยแรก เมื่อไปถึงภูเก็ตจึงได้ประกาศให้ยินกันไปทั่วว่า “ในฐานะ ส.ส.ของปวงชนชาวไทย จะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่งให้นายกเทศมนตรีตำบลกะรนหยุดปฏิบัติหน้าที่เอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน”

เวลาเดียวกันนั้น นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีก็นำเอกสารไปปิดประกาศ “ให้ระงับการก่อสร้างเอาไว้ก่อน”

แต่ฉากที่เป็นเรื่องขึ้นมาไม่ใช่ “เนื้อ” แต่เป็น “น้ำ”

เป็น “ท่วงทำนอง” ที่พ่วงมากับอุปนิสัย

เมื่อ ส.ส.สิระกล่าวคล้ายข้องใจว่า ทำไมตำรวจไม่จับกุมทั้งที่เห็นการสร้างคอนโดฯอยู่ตำตา นายตำรวจระดับ “รองผู้กำกับการ” จึงพยายามชี้แจงถึงการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วย “ความผิดซึ่งหน้า”

ตำรวจอธิบายด้วยความสุภาพเป็นปกติ

แต่ทำไม ส.ส.สิระถึงต้องบอกว่า “พี่ผ่านโลกมาเยอะ”

จะบอกให้รู้ว่าแก่กว่า เก๋ากว่า แน่กว่าอย่างนั้นหรือ

จากนั้น “คำอธิบาย” ก็ถูกตีความว่าเถียงกับขึ้นเสียง

จะต้องพินอบพิเทาเอาใจแบบไหน

น่าเสียดายที่เนื้อหาดีๆ ที่ “สิระ” ลงไปทำนั้นต้องมาถูกท่วงทำนองลุแก่อารมณ์บดบัง

ตำรวจเป็นผู้รักษากฎหมาย ไม่ใช่ลูกไล่ ไม่ใช่ขี้ข้าผู้รับใช้ใคร

ถ้าจะผิดก็ว่ากันไปตามหน้าที่รับผิดชอบ อย่าไปข่มขู่ หรือกดดัน !?!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image