พลันที่ กกต.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอยุบพรรคประชาชนปฏิรูปอันมาจาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน เหมือนกับว่าเส้นทางของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน
เป็นไปอย่างราบรื่น เหมือนยืนอยู่บนเนินเขา
ความเป็นไปได้ที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน จะผันตัวเองไปเป็นฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐเริ่มมีหลักประกัน
เป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อ้าแขนรับ
ปัญหาหากจะมีอยู่ก็เพียงแต่ กกต. จะช่วย “เคลียร์” ในเรื่องคะแนนบัญชีรายชื่อ 40,000 คะแนน ที่พรรคประชาชนปฏิรูปได้มาอย่างไร
จะไปผนวกรวมเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
หรือจะเล่นกายกรรมอย่างที่หลายคนในพรรคเพื่อไทยแสดงความวิตกเป็นกังวลแทนพรรคอนาคตใหม่
ตรงนี้มีความจำเป็นต้อง “ตามไปดู”
ทั้งหมดนี้คือการตั้งเป็นข้อสังเกตตั้งแต่มีข่าวการเสนอยุบพรรคประชาชนปฏิรูปของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน โดยประกาศเป้าหมายไปซบกับพรรคพลังประชารัฐ
ตั้งข้อสังเกตว่าอาจขัดกับ “รัฐธรรมนูญ”
ต้องข้อสังเกตว่าอาจนำไปสู่ปัญหาในการคำนวณคะแนนโดยเฉพาะในระบบบัญชีรายชื่อว่าจะตัดทิ้งไป หรือว่าถ่ายโอนได้
ไม่เพียงแต่จะมาจากอดีต กกต.อย่าง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร
ไม่เพียงแต่จะมาจากนักวิชาการซึ่งเคยอยู่ในฐานะเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อย่าง นายเจษฎ์ โทณะวณิก
หากแม้ นายวิษณุ เครืองาม ยังยอมรับว่าเป็น “โจทย์ยาก”
ที่น่าสนใจก็คือ โจทย์อัน นายไพบูลย์ นิติตะวัน สร้างขึ้นนี้ได้กลายเป็นเผือกร้อนต่อ 1 กกต. และ 1 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ตรงนี้มีความจำเป็นต้อง “ตามไปดู”
ประหนึ่งว่ากระบวนการของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นนวัตกรรมหนึ่งภายในกระบวนการอย่างที่เรียกขานกันว่า “อภินิหาร” ในทางกฎหมาย
เหมือนที่เห็นมาแล้วก่อน “การเลือกตั้ง”
เหมือนที่เห็นมาแล้วอย่างเป็นระบบภายหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเนรมิตคะแนนให้กับพรรคการเมืองขนาดเล็ก
จำนวน 11 ส.ส. จาก 11 พรรคการเมือง
ปรากฏการณ์เหล่านี้สามารถสร้างความมั่นใจให้กับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้คะแนนโดยพื้นฐานของพรรคพลังประชารัฐทะยานไปยัง 116
เมื่อผนวกกับ 250 ส.ว.ก็เท่ากับ 376
เป้าหมายจากปรากฏการณ์พรรคประชาชนปฏิรูป หรือ “ไพบูลย์ โมเดล” จะทำให้พรรคพลังประชารัฐมีความหนักแน่นและมั่นคงถึงขั้น 280 ส.ส.หรือไม่
ตรงนี้ยิ่งมีความจำเป็นต้อง “ตามไปดู”
หากฟังจากน้ำเสียงของ “ดาวสภา” อันยอดเยี่ยมของพรรคเพื่อไทย ก็สะท้อนให้เห็นแนวโน้มและความเชื่อที่ว่า เป้าหมาย 280 ส.ส.น่าจะบรรลุ
สัมผัสจากการนำร่องโดย “ไพบูลย์ โมเดล”
ทุกอย่างดำเนินไปบนพื้นฐานแห่ง “อภินิหาร” ในทางกฎหมาย เพื่อปรับพื้นที่และสร้างหลักประกันในทางการเมือง
เพื่อความมั่นคงแข็งแกร่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
