เรื่องที่ใครๆ ก็รู้ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราชอบทำเป็นเมินเฉย ถือคตินิ่งเสียตำลึงทอง ประคองตัวรอดเป็นยอดคน
แต่ พ.ศ.นี้เทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยนโลก
ที่เรียกว่า เกทคีปเปอร์ (Gate-keeper) หรือผู้เฝ้าประตู ตายไปแล้ว !
ที่เคยลำพองว่าจะเปิด-จะปิดข่าวสาร จะตัดสินใจนำเสนอ เผยแพร่หรือโยนทิ้งไปนั้น บัดนี้ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงข่าวสารและสามารถส่งสารถึงกันเองได้ง่าย “เกทคีปเปอร์” หมดมนต์ขลัง
สำนวน “ช้างตายทั้งตัวอย่าเอาใบบัวปิด” จึงน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
มีคำถามว่า ทำไมรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กับ สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่มอบรางวัลให้กับคุณการ์ตูนที่กล้าเปิดแผล “อัยการ”
นานๆ ที จะมีนักธุรกิจเอกชนลุกขึ้นมาปฏิเสธ “สินบน” ด้วยการเอาคลิปเสียงที่ถูกเรียกเงิน 10 ล้านบาท
มาแฉ ทั้งยังเปิดเผยพฤติกรรมเป็นฉากๆ ออกโทรทัศน์ว่ามีบุคคลแสดงตนเป็นอัยการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตไม่ทำความเห็นแย้งตามที่อัยการจะสั่งไม่ฟ้องคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ
คุณการ์ตูนยืนยันว่า “ดิฉันพร้อมสู้คดี เรารับไม่ได้ที่จะมาใช้วิธีการรีดไถแบบนี้”
ที่นี่ ประเทศไทย! ประกาศกันปาวๆ อยู่ทุกวันว่าจะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
นิยมชมชอบจัดกิจกรรมต่อต้านการทุจริต จัดพิมพ์เอกสาร ติดสติ๊กเกอร์รณรงค์ ถลุงงบประมาณไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์มหาศาลต้านคอร์รัปชั่น
แต่เมื่อมี “เหตุ” เกิดขึ้น คนปากดี ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย จะดีแต่พูด ดีแต่วินิจฉัย ตัดสิน ชี้นิ้วไปที่ผู้อื่นคนอื่น หรือมีวิธีจัดการที่เฉียบขาดอย่างไรต้องติดตามดู
จะสร้างมาตรฐานโปร่งใสด้วยการเอาออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เปลืองเงินงบประมาณเดือนเป็นแสนๆ ถ้า
ภายหลังปรากฏว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ประเทศนี้มีเงิน ค่อยจ่ายย้อนหลังให้พร้อมดอกเบี้ย
หรือว่า ทำได้แค่ย้ายให้ไปนั่งกินเงินเดือนเฉยๆ โดยไม่ต้องทำงาน
ต้องถาม “เข็มชัย ชุติวงศ์” อัยการสูงสุด ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
“ความจริง” คงไม่ซับซ้อน
แต่ “คน” คนหนึ่งย่อมมากไปด้วยความยอกย้อน
มีพวกมาก มีอำนาจ มีกฎหมาย มีปืน มีเครือข่ายโยงใยกว้างขวางหลายวงการ และบางคนก็ใหญ่โตโอ่อ่าเสียจนแตะไม่ได้
ไม่กล้าแตะแล้ว จะไปปราบผีทุจริตคอร์รัปชั่นที่ไหนเล่า !?!!