พระเมตตาใน ‘สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส’ ‘วาติกัน-วัดโพธิ์’ มิตรภาพระหว่างศาสนา : โดย พระราชปริยัติมุนี

การเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ไม่เพียงแต่คริสต์ศาสนิกชนชาวไทยที่รอคอยเท่านั้น

คณะสงฆ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ ต่างล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเช่นกัน

เพราะนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน “นครวาติกัน-วัดโพธิ์” ได้สานมิตรภาพระหว่างสองศาสนามาอย่างยาวนาน

ตั้งแต่ครั้งที่สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ ที่ในเวลาต่อมา คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เดินทางไปเยือนสำนักวาติกัน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2515 นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญและเป็นครั้งแรกที่พระภิกษุชาวไทย เดินทางเพื่อเข้าเฝ้าและปฏิสันถารร่วมกันระหว่างสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 6 พระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกและพระเถรวาทจากประเทศไทยรูปแรก

Advertisement

ทั้งนี้ สำนักวาติกันเองได้บันทึกภาพการพบกันครั้งนั้นด้วยภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ ติดตั้งไว้ ณ กระทรวงว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างศาสนา นครรัฐวาติกัน จนถึงปัจจุบัน

ผู้แทนพระสันตะปาปารับมอบคัมภีร์พระมาลัยอักษรขอม จากเจ้าอาวาสวัดโพธิ์

จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่ง
คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน จะเสด็จมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก

Advertisement

แต่เป็นการเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ของสมเด็จพระสันตะปาปา
โดยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม พ.ศ.2527 หรือ ค.ศ.1984 โดยพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ

ส่วนครั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงมีความโสมนัสยิ่งที่การเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยเป็นการจาริกเพื่อสันติภาพ และเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา พระองค์จะประกอบพิธีมิสซาแบบสาธารณะ 2 ครั้ง คือ สำหรับบรรดาคริสตชนคาทอลิกทั่วประเทศ และอีกครั้งเป็นพิเศษสำหรับบรรดาเยาวชน โดยจะทรงประกอบศาสนกิจ อีกทั้งทรงเยี่ยมเยียนคริสตชนในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 4 วัน

เหตุการณ์ที่น่าจดจำที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้มีหลายประการ

“เมื่อคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ ทราบข่าวการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ต่างรู้สึกปีติยินดียิ่ง เพราะที่ผ่านมามิตรภาพระหว่างนครรัฐวาติกัน-วัดโพธิ์ ถือว่ามีมาอย่างยาวนาน นอกจากการเยือนของสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯแล้ว ทางคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯได้รับพระเมตตาให้ปริวรรต (แปล) คัมภีร์พระมาลัย เพื่อจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ นครรัฐวาติกัน ให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกชม

โดยเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2561 คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯได้ทูลถวายคัมภีร์พระมาลัยที่ปริวรรตแล้วเสร็จ แด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ นครรัฐวาติกัน หลังจากที่เมื่อราวเดือนสิงหาคม พ.ศ.2559 คณะผู้แทนจากวาติกัน มงซินญอร์ ดร. วิษณุ ธัญญอนันต์ อดีตนักการทูตแห่งสันตะสำนัก นครรัฐวาติกัน ได้เข้าพบพระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เพื่อแจ้งพระสมณประสงค์จากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ว่าจะจัดแสดงคัมภีร์พระมาลัยของถวายที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้ทรงถวายเมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรปพร้อมกับเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 11 เมื่อวันพุธที่
21 มีนาคม ค.ศ.1934 เมื่อครั้งนั้น แต่ทางวาติกันไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะอ่านและแปลคัมภีร์โบราณฉบับดังกล่าวได้ จึงประสงค์ให้มีการปริวรรตคัมภีร์จากอักษรขอมเป็นภาษาไทย

หลังจากนั้นเพียงปีเดียวการปริวรรตดังกล่าวก็เสร็จสิ้นลง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2560 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงมอบหมายให้พระคาร์ดินัลฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช เข้ารับมอบคัมภีร์ที่ปริวรรตแล้วเสร็จจากคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ และปีถัดมาได้มีการถวายคัมภีร์พระมาลัยอักษรขอม (บาลี-ไทย) ที่ปริวรรตแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการแด่สมเด็จพระสันตะปาปา
ฟรานซิส ณ นครรัฐวาติกันเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ซึ่งถัดจากนี้จะมีการนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ อีก 7 ภาษาต่อไป

ต่อมา เมื่อครั้งที่วัดโพธิ์จัดงาน “สมโภชพระอาราม 230 ปี วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” 2331-2561 The Grand Festival Commemorating The 230th Anniversary of Wat Phra Chetuphon (Wat Pho) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 พฤศจิกายน 2561 สำนักวาติกัน ก็ได้มอบผู้แทนและคณะเดินทางเพื่อมาร่วมงานสมโภชวัด พร้อมเยี่ยมชมโบราณสถานภายในวัดที่ขึ้นชื่อติดอันดับโลก

และหลังจากนั้นไม่นาน คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯก็ได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมประชุมเรื่อง “ศาสนากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่นครรัฐวาติกัน ร่วมกับสหประชาชาติจัดขึ้น เมื่อวันที่ 7-9 มีนาคม พ.ศ.2562 และถัดมาวันที่  17 มีนาคม พ.ศ.2562 คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ ร่วมแสดงมุทิตา ในพิธีฉลองครบรอบปีที่ 6 แห่งสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ

จะเห็นได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างวัดโพธิ์กับวาติกัน มีมาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น พระธรรมรัตนากร เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เมื่อทราบข่าวการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ท่านได้มีความเมตตามอบหมายให้พระราชรัตนสุนทร (วินัย  ธมฺมานนฺโท )  และคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ จัดทำหนังสือที่ระลึก “วาติกัน-วัดโพธิ์ มิตรภาพระหว่างศาสนา” เพื่อถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส และมอบให้แก่คณะผู้ติดตาม รวมถึงสื่อมวลชน  

หนังสือวาติกัน-วัดโพธิ์ จัดพิมพ์ 3 ภาษา ถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

 

หนังสือเล่มนี้ เราได้พยายามรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างวาติกัน-วัดโพธิ์  เริ่มตั้งแต่ที่สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เยือนสำนักวาติกัน เมื่อปี พ.ศ.2515 ในขณะที่ท่านเดินทาง ท่านได้บันทึกรายละเอียดไว้ ชื่อ “สู่สำนักวาติกัน”

บันทึกการเดินทางครั้งนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลอันสำคัญที่ทำให้เราทราบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ณ สำนักวาติกัน ย้อนหลังไปเมื่อ 47 ปีที่แล้ว นับว่าเป็นบันทึกที่มีคุณค่ายิ่ง เพราะมีเรื่องราวที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ในหนังสือ “วาติกัน-วัดโพธิ์ มิตรภาพระหว่างศาสนา” เล่มนี้ ได้ลำดับเหตุการณ์ไว้อย่างต่อเนื่อง โดยจะจัดพิมพ์เป็น 3 ภาษา คือ ไทย-อังกฤษ-อิตาลี รวมอยู่ในเล่มเดียวกัน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากศูนย์การแปลและการล่าม มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเรียบเรียงข้อมูล เป็นภาษาอังกฤษและภาษาอิตาลี

การพิมพ์หนังสือเล่มนี้นับเป็นครั้งพิเศษ ในโอกาสอันเป็นมิ่งมงคล ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อสันติภาพและมิตรภาพระหว่างศาสนา

พระราชปริยัติมุนี
(เทียบ สิริญาโณ ป.ธ.9, รศ.ดร.)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image