| ผู้เขียน | ทรงพร ศรีสุวรรณ |
|---|
สามเหลี่ยมพีระมิดหัวกลับ คือโลโก้ของพรรคอนาคตใหม่ โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อธิบายความหมายว่า เมื่อเห็นโลโก้ของพรรค จะเห็นปุ่ม Forward และลูกศรชี้ไปข้างหน้า มีความหมายร่วมกันคือ เห็นอนาคต สะท้อนความหวังที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า ก้าวพ้นไปจากทศวรรษที่สูญหาย สู่ประเทศไทยที่มีอนาคต
ส่วน “สีส้ม” คือสีแห่งรุ่งอรุณของวันใหม่ วันที่เราตื่นขึ้นมาด้วยความหวัง
เหมือนเป็นปฏิญญาของพรรคอนาคตใหม่ ที่จะทำให้ประเทศไทยเคลื่อนไปข้างหน้า สู่ประเทศไทยที่มีอนาคต
แต่เส้นทางการขับเคลื่อนของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ราบรื่น
ตั้งแต่ประกาศตั้งพรรค ก็เผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อกล่าวหาต่างๆ
ยิ่งส่องแสงเจิดจ้า และชูนโยบาย เช่น ยุติการสืบทอดอำนาจของกองทัพ ยุติมรดกของ คสช. ยุติการทำรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ ไม่ให้ทหารยุ่งกับการเมือง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร แก้รัฐธรรมนูญ ทำลายทุนผูกขาด ฯลฯ ก็ยิ่งเผชิญกับมรสุมลูกใหญ่ขึ้น
3 ทหารเสือของพรรคคือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯพรรค และ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ย่อมเจอศึกหนักกว่าใคร ทั้งเรื่องการเมืองและส่วนตัว
แม้จะโดนจนน่วม เหนื่อยกับการต่อสู้ ชี้แจง และเสี่ยงกับข้อหา แต่ดูเหมือนว่า “3 ทหารเสือ” จะไม่หวั่นไหว เพราะยังเห็นพยายามขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน
ขณะที่ภายในพรรคอนาตใหม่ ก็เกิดปัญหาความไม่เป็นเอกภาพ เมื่อมี ส.ส.โหวตสวนมติของพรรคในการประชุมสภาพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
นอกจากนี้ยังมีสมาชิกพรรคที่ไม่พอใจผู้บริหารพรรค ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค
ทำให้มองเห็นภาพความขัดแย้ง และแตกแยกภายในพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเข้าทางกลุ่มตรงกันข้ามที่พากันออกมาเสริมเติมแต่ง
มีการถามหาจุดยืนทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ว่า ยังยืนอยู่ในจุดเดิมหรือไม่
ซึ่งปัญหาภายในพรรคอนาคตใหม่ ภิญโญ ขันติยู สมาชิกพรรค และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ได้สรุปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างชัดเจน
ภิญโญ ขันติยู ระบุว่า ประเด็นที่เพื่อนพ้องน้องพี่หยิบยกมาเป็นเหตุผลในการยื่นใบลาออก 4 ข้อ
1.พรรคไม่ได้จัดสรรตำแหน่งผู้ช่วย ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ ตามที่พรรคเคยสัญญาไว้ 2.พรรคไม่เห็นหัวผู้แพ้ มีคำเหยียดหยาม มองผู้แพ้เป็นแค่ขยะ 3.ย่ำยีไม่รับฟังคนในพรรค แบ่งคนในพรรคออกเป็นชนชั้น และ 4.ความไม่พอใจในการคัดสรรทีมลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.
ภิญโญ ขันติยู ได้แก้ต่างให้กับพรรคอนาคตใหม่ว่า ข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าหลักการและเหตุผลต่างๆ ของพรรคอนาคตใหม่ ยึดโยงการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้น เปลี่ยนแปลงสู่การพัฒนาเพื่อส่งมอบสังคมที่ดีกว่านี้ให้ลูกหลานเรา ไม่ได้เพื่อผลประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจจะทำให้ไม่พอใจของคนในพรรคบางคนบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ
หลักและแก่นของพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่นอน กระแสที่เกิดขึ้นคือ มุมบวก การเวลาพิสูจน์คน คัดกรองคน จะยิ่งทำให้พรรคแข็งแกร่งขึ้น
ภิญโญ ขันติยู สรุปในตอนท้ายว่า เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ตำแหน่งอะไรในพรรค และไม่เคยเรียกร้อง เป้าหมายของเรายิ่งใหญ่กว่าการที่จะไปคิดเล็กคิดน้อยกับพรรค
“ภิญโญ ขันติยู” จึงควรได้รับคำขอบคุณจากแกนนำและผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่
ทรงพร ศรีสุวรรณ
