กระแส การเมือง ‘เงิน’ นอก ‘งบประมาณ’ เจาะ ‘กลาโหม’

ระหว่างการเปิดประเด็นว่าด้วย “งบทหาร” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้งในคณะกรรมาธิการวิสามัญ ทั้งผ่าน “ธนาธรไลฟ์” กับ คำชี้แจงอันมาจาก ผบ.เหล่าทัพ

กำลังเป็นคู่ “เปรียบเทียบ” อย่างทรงความหมาย

ไม่ว่าในเรื่องของบริษัทอันจัดตั้งขึ้นในร่มเงาแห่ง ททบ.5 ที่กองทัพบกมีหุ้นอยู่ร้อยละ 50 และดำเนินกิจการขาดทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท

ทั้งๆ ที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 10 กว่าล้านบาท

Advertisement

ไม่ว่าเงื่อนงำอันเกี่ยวกับสนามมวยที่ใช้งบประมาณ 50 กว่าล้านบาทที่ทุ่งมหาเมฆแล้วไม่ใช้หันมาใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ที่รามอินทรา

ถามว่า “เงื่อนงำ” เหล่านี้ได้มาอย่างไร

ได้มาจากคำตอบของ “ผบ.เหล่าทัพ” ในห้วงแห่งการเดินทางไปชี้แจงรายละเอียดในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ หรือเป็นเพราะมีสื่อ “เชิงสืบสวน” เจาะออกมานำเสนอ

Advertisement

ตรงกันข้าม เป็นการเสาะหาของ “อนาคตใหม่” เน็ต-เน็ต

สิ่งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นำมาเปิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่กำลังขยายผล เริ่มสร้างความตื่นตะลึง

ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ต่าง “เงียบ”

ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากภายในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563

เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย

ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากพรรคการเมือง ไม่ว่าพรรคที่มีรากฐานเก่าแก่และดำรงอยู่อย่างเป็น “สถาบัน” อย่างพรรคประชาธิปัตย์

หรือพรรคการเมืองอย่าง “กิจสังคมใหม่”

ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยต่างยอมรับว่าไม่เคยมีพรรคการเมืองใด ไม่เคยมีนักการเมืองใดแตะไปยัง “เงินนอกงบประมาณ” ของกระทรวงกลาโหม

ถือได้ว่า ธนาธร อนาคตใหม่ ทำเป็นครั้งแรก

น่าสังเกตว่าบทบาทนี้ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปรากฏขึ้นในสถานการณ์สำคัญ 2 สถานการณ์ 1 คือ สถานการณ์ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส.

สถานการณ์ 1 คือ พรรคอนาคตใหม่เสนอร่างกฎหมาย “ท.ทหาร ทันสมัย”

จากสถานการณ์แรกเท่ากับเป็นการบ่งชี้และยืนยันว่า เมื่อ “เขา” ไม่ต้องการให้ผมอยู่ในสภา ผมก็มาอยู่กับ “ประชาชน”

ขณะเดียวกัน การเปิด “เม็ดใน” ของ “กลาโหม” นำไปสู่การเปรียบเทียบ

เปรียบเทียบให้เห็นว่ากระทรวงกลาโหมสามารถสร้าง “รายได้” อย่างมหาศาลจากกิจการทีวี วิทยุ จากกิจการสนามม้า สนามมวย

แล้วการดำรงอยู่ของ “กำลังพล” ดีตามรายได้ไปด้วยหรือไม่

หรือว่ามีแต่บรรดา “นายพล” จำนวนหนึ่งซึ่งมาเกี่ยวข้องกับ “การเมือง” และ “รัฐประหาร” เท่านั้นที่มีเงินถุงเงินถัง

ขณะที่ “ไอ้เณร” และ “ชั้นผู้น้อย” ต้องขอดน้ำตากิน

ปฏิกิริยาจากกระทรวงกลาโหมดำเนินไปในกระสวนเดียวกันกับปฏิกิริยาของ ผบ.เหล่าทัพที่เดินแถวเรียงหนึ่งไปชี้แจงในคณะกรรมาธิการวิสามัญ

ยังไม่ตระหนักในจุดอ่อน ช่องโหว่

ยังเห็นว่ารายได้ “นอกงบประมาณ” ที่มิได้มีการตรวจสอบโดยกลไกของสำนักตรวจเงินแผ่นดินหรือระบบรัฐสภา เป็นความชอบธรรม

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงกระแสเรียกร้อง “การตรวจสอบ” เริ่มร้อนแรง รุกเร้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image