อย่าปล่อยให้วาทกรรม ‘ชังชาติ’ ทำลายความปรองดองของคนในชาติ : โดย ไพรัช วรปาณิ

สดๆ ร้อนๆ นี่เอง ผู้เขียนได้อ่านเฟซบุ๊ก Kanjanee Valyasevi ว่า “อะไรๆ ก็ชังชาติ” ซึ่งนับว่าเป็นความคิดเห็นที่กลั่นมาจากใจของ “หญิงแกร่งทางการเมือง” คุณกาญจนี วัลยะเสวี หรือติ๊กต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับและแกนนำกลุ่มชาวไทยรักสงบ แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้โพสต์ข้อความอันทรงคุณค่า เพื่อเตือนสติรัฐบาลและคนในชาติ โดยมีนัยว่า อย่าหลงใหลกับวาทกรรมลวงโลกคำว่า “ชังชาติ” ตามนักการเมือง “ตกยุค” บางคนเลย…(ฮา)

ผู้เขียนไม่เคยรู้จักกับคุณกาญจนีผู้โพสต์ข้อความนี้เป็นการส่วนตัวมาก่อน แต่ยอมรับว่า รู้ลึกชื่นชมในความเป็นคนตรงไปตรงมา และกล้าหาญที่ออกมาพูดความจริง อีกทั้งแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองโดยรวม ตลอดจนการเขียนข้อความลงในโพสต์ดังกล่าวนั้น มีถ้อยคำคมคาย สั้น-กะทัดรัด แต่เปี่ยมด้วยเนื้อหาสาระ พร้อมด้วย Conten อันแหลมคม อ่านแล้วมันสะใจจริงๆ โดยเฉพาะ กับ “คอการเมือง” ที่ห่วงบ้านห่วงเมือง โปรดติดตามมา อย่ากะพริบตา

คุณกาญจนีได้กล่าวว่า แทนที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน แก่คนที่คิดเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปในทางที่เราไม่ได้เป็นมาก่อน ซึ่งมีจำนวนเพียงเล็กน้อย ควรเอาคนเหล่านั้นมาเป็นพวก เอามันสมองของเขามาทำประโยชน์ให้บ้านเมืองจะดีกว่า

เวลานี้ เขาได้มีบทบาทในบ้านเมือง ความคิดเดิมๆ อาจเปลี่ยนไปแล้ว แต่นี่ รัฐบาลกลับจะทำให้คนเหล่านี้ไม่มีที่ยืน ทำให้เขาเป็นหมาจนตรอก….อย่าลืมว่าเขาก็เป็นคนไทย

Advertisement

อย่าปล่อยให้พวกเชรียร์ “ลุง” ออกมาข่มขู่ใครต่อใคร ว่าเป็นพวก “ชังชาติ” อีกเลย

แถมยังจะออกกฎหมายเล่นงานคนคิดต่าง (คนที่คิดแบบนี้ มันส่อให้เห็นถึงวุฒิภาวะ คนอย่างนี้เหรอที่นายกฯจะให้เก้าอี้รัฐมนตรี)…ขำไม่ออก

อย่าลืมว่า คนที่คิดต่างเขาก็เป็นคนไทย “ลุง” และพวกต่างหากที่ปั่นกระแสความเกลียดชังขึ้นในชาติ ประชาชนที่ไม่ใช่สีส้มเฝ้ามองการกระทำของรัฐบาล บอกได้เลยว่าพวกคุณต่างหากที่นอกจากจะไม่ได้ปฏิรูปใดๆ ไม่ได้สร้างความปรองดองในบ้านเมือง แต่กลับแบ่งแยกประชาชน

Advertisement

อย่าทำให้เขาต้องสู้ เพราะบ้านเมืองจะวุ่นวาย จากผู้นำที่คิดไม่เป็น…เศร้า!!

ข้อความอันแหลมคมของ “หญิงแกร่ง” ดังกล่าวนอกจากเป็นประโยชน์ประหนึ่งโอสถอัน “ขมปาก” แต่แก้ไข้ได้ดีเยี่ยมแล้ว ในทางตรงข้ามก็เป็นดั่ง “กริช” ที่เสียดแทงหัวใจนักการเมืองตกยุคบางคนอีกด้วย…ว่าไหม??

ดังนั้น ผู้นำที่ชาญฉลาด และหวังดีต่อประเทศ คงไม่ปล่อยให้วาทกรรม “ชังชาติ” มาทำลายความสามัคคี-ปรองดองของคนในชาติ เป็นแน่แท้

ดั่งที่ ดร.สมัคร เจียมบุรเศรษฐ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เคยเขียนไว้ในหนังสือ “อุดมการณ์ของชาติ” ตอนหนึ่งว่า

“รัฐบาลที่ดีมีความสามารถ จะต้องสามารถบริหารบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้ จะต้องสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นภายในประเทศ จะต้องปราบคอร์รัปชั่นได้ จะต้องเคารพกฎหมายโดยเคร่งครัด จะต้องสามารถจัดระเบียบในการบริหารประเทศและสังคม จะต้องสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม จะต้องจัดสวัสดิการให้กับประชาชนโดยทั่วกัน และประการสุดท้าย ต้องเป็นที่พึ่งหรือให้ความไว้วางใจกับประชาชนได้

ในการบริหารกิจการบ้านเมือง ไม่มีหลักบริหารใดดีไปกว่าความรัก ความสามัคคี-ปรองดอง การประสานกลมเกลียวกันของคนในชาติ ในความเป็นหนึ่งประโยชน์ส่วนรวมเกิดขึ้น ประโยชน์ส่วนตัวจึงเกิด

การสร้างสรรค์ให้สังคมเห็นดีเห็นชอบในคุณงามความดี ประชาชนซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร อดทน มีหลักการสำหรับดำเดินชีวิต ก่อสร้างสังคมเพื่อความก้าวหน้าของอนาคต หลักแห่งการกระทำ ความสามารถและผลงานบริหารประเทศนี้ย่อมยืนนาน

การศึกษาการฝึกฝน การปฏิบัติ การประพฤติตามระเบียบวินัย คือ รากฐานอันมั่นคงของชาติ เป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่งของประเทศชาติ เป็นหนทางไปสู่ความสมบูรณ์ เศรษฐกิจที่ดีและพละกำลังอันกล้าแกร่งเป็นชัยชนะตลอดกาล จึงเหมาะที่จะปกครองประเทศ นี่คือรากฐานที่มั่นคง ความยั่งยืน และอมตะ

การบริหารประเทศที่ดีที่สุดนั้น จะต้องแก้ไขที่เฟืองจักรใหญ่ ถ้าแก้ไขเฟืองจักรใหญ่ได้ เฟืองจักรเล็กก็ดีตามไปด้วย แต่ถ้าแก้ไขเพียงเฟืองจักรเล็ก โดยไม่แก้เฟืองจักรใหญ่ เฟืองจักรเล็กก็จะมีประโยชน์สำหรับเฟืองจักรใหญ่เท่านั้น

การแก้ไขเช่นว่านี้ ไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายของประเทศและส่วนรวมได้ ถึงกระนั้นเฟืองจักรเล็กก็อาจรวมตัวกันขึ้นสามารถแก้ไขเฟืองจักรใหญ่ได้ อันเป็นหนทางสุดท้ายควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจจะพาประเทศไปสู่ความล่มจม

การแก้ไขปัญหาประเทศชาตินั้น ผู้บริหารจะต้องทำตัวเป็นคนกลาง มองเห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่มองผลประโยชน์ส่วนตัว ถ้ารัฐบาลหรือประเทศใด การบริหารถูกชี้นำโดยกลุ่มผลประโยชน์ จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม เพราะกลุ่มผู้มีผลประโยชน์มีความละโมบ ไม่รู้จักพอ เอารัดเอาเปรียบมากเกินไป และไม่ยอมรับระเบียบวินัย

เมื่อใดประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยากจน ความไม่สันติสุขก็จะเกิดขึ้น

ท้ายสุด ผู้เขียน ใคร่ขอฝาก “ลุงตู่” ด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า โปรดอย่าได้ปล่อยให้นักการเมือง “ตกยุค” ที่ใช้วาทธรรม “ชังชาติ” อันแฝงด้วยเล่ห์ มาเป็น “หนอนบ่อนไส้” ทำลายความสามัคคี-ปรองดองของคนในชาติ ตามความปรารถนาดีของคุณกาญจนี “หญิงแกร่ง” คนดังกล่าว เลยครับ

ไพรัช วรปาณิ
เนติบัณฑิตไทย
วารสารศาสตรบัณฑิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image