ขัง’อากาศ’ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

การทำให้ศูนย์ปราบโกงประชามติกลายเป็น อากาศธาตุŽ กำลังดำเนินไปอย่างเอาจริงเอาจัง

แต่กระนั้น ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า อากาศŽ นั้น

มีคุณสมบัติ ฟุ้งกระจายŽ

จับ ขังŽ เอาไว้ไม่ได้ มันขัดธรรมชาติ

Advertisement

เพราะขังอย่างไรก็ขังไม่อยู่

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และแกนนำ นปช.จะไม่อาทรร้อนใจกับการถูกจับ

แถมยังท้าทายให้จับเสียด้วย

Advertisement

เพราะมันจะยิ่งช่วยกระพือให้ ศูนย์ปราบโกงประชามติŽ ฟุ้งกระจายออกไปมากยิ่งขึ้นอีก

ในตอนนี้ แม้จะยังไม่มีการเปิดสาขาศูนย์ปราบโกงฯแม้แต่สักแห่ง

แต่รัฐบาล คสช. กกต.กลับไปช่วยกระพือเสียเอง

ไม่ใช่แค่ภายในประเทศ หากแต่ไปถึง ยูเอ็นŽ

เช่นเดียวกับสหรัฐและยูเอ็นที่เริ่มส่งเสียง ขอพื้นที่ให้มีการแสดงความเห็น

จะไปโทษใครก็ไม่ได้ เพราะเมื่อเลือกจะออกแบบให้กฎหมายประชามติออกมาเช่นนี้ คือ มุ่ง ควบคุมŽ มากกว่า เปิดกว้างŽ

ก็ต้องเดินหน้า ควบคุมŽ ให้อยู่

แต่เมื่อควบคุมไม่อยู่

ก็ต้องอยู่ในภาวะปราม แต่ปราบไม่ได้

และวิ่งตามเกมของอีกฝ่ายอย่างเหน็ดเหนื่อย

เพียงแต่จะยอมรับความจริงนี้หรือไม่เท่านั้น

แน่นอน ภาพที่ทหาร-ตำรวจบุกไปปลดป้ายศูนย์ปราบโกงฯตรงนี้ตรงนั้น เหมือนเป็นการ รุกŽ อีกฝ่าย

แต่เป็นการรุกที่สูญเปล่ามากกว่า

เพราะอย่างที่บอก มันกลับไปช่วยกระพือให้คนรู้สึกว่ามีแต่การใช้ อำนาจŽ จัดการ

ทั้งที่กระบวนการประชามติมันควรเป็นการเปิดกว้าง เปิดการดีเบต อำนาจควรจะช่วยส่งเสริม

ไม่ใช่ไปปิดปาก

ยิ่งเขาอ้างว่าจะมาช่วยปราบ โกงŽ ก็ยิ่งควร พิสูจน์Ž ว่า จะทำเช่นนั้นจริงหรือไม่

ถ้าทำไม่ได้ หรือบิดเบี้ยวไป คนที่เสียก็คือ นปช. ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล

แต่น่าเสียดายที่มองข้ามประเด็นนี้ไป

อาจจะอ้างว่า ก็เพราะเรื่องนี้มี เกมการเมืองŽ อยู่ข้างหลัง

ก็ลองถามตัวเองซื่อๆ และตรงไปตรงมาว่า การออกแบบการทำประชามติให้เป็นเช่นนี้ มีเกมการเมืองแอบแฝงหรือไม่

ปฏิเสธไม่ได้หรอก

ตัวเองทำได้ คนอื่นก็ทำได้ จะรับมือกับมันอย่างไรนั่นสำคัญกว่า

ถามว่า เมื่อรัฐบาลและ คสช.ถลำไปในความเชื่อว่าอำนาจจะคุมอะไรได้ทุกอย่าง อันนำมา

ซึ่งคำสั่งให้ปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ แต่เอาเข้าจริง คุมได้หรือไม่ ก็คงเห็นกันอยู่

เราได้เห็น การฟุ้งกระจายŽ จากผลแห่งการคุมเข้มมากกว่า

จึงนำมาสู่การท้าทายของ นปช.

และตามมาด้วยการท้าทายอย่างกลุ่มแกนนำพรรคเพื่อไทย 17 คน ด้วยการแสดงจุดยืนไม่รับรัฐธรรมนูญ

หลังจากนี้ก็อาจจะมีหลายกลุ่มติดตามมา

สะท้อนให้เห็นเมื่ออำนาจคุมไม่ได้จริง การท้าทายก็ยิ่งเกิดขึ้น

และน่าแปลก แทนที่จะรีบสรุปบทเรียนเพื่อรุกไล่กลับ

เรากลับเห็นการใช้แนวทางเดิมๆ อีก นั่นคือ หวังพึ่ง อำนาจŽ อีกตามเดิม

ตอนนี้เราเห็นข้อเสนอให้เอาเรื่องแกนนำพรรคเพื่อไทย ด้วยการ ยุบพรรคŽ เสีย

ฐานขัดคำสั่ง คสช. ด้วยการทำกิจกรรมทางการเมือง

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ยิ่งเสียการเมืองเพิ่มขึ้นไปอีก

เพราะในขณะที่อีกฝ่ายกำลังต่อสู้เพื่อขอพื้นที่ในการแสดงความเห็น อีกฝ่ายก็ยังหน้าดำ

คร่ำเครียดกับความพยายามใช้อำนาจ

ใช้กฎหมายประชามติไม่ได้

ก็ไปหยิบเอาคำสั่งของ คสช.ซึ่งถูกมองว่าไร้ความชอบธรรมในฟากหนุนประชาธิปไตยมาใช้ยุบพรรคอีก

ก็เข้าทำนอง ความพยายามจับ อากาศŽ ขังนั่นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image