พ่อเป็นน้องชายของลูกสาว โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

ขึ้นต้นหัวข้อเรื่องน่าพิศวงงงงวยดีเหลือเกินเนาะ พ่ออะไรจะเป็นน้องชายของลูกสาว ลำดับญาติกันแบบไหน ท่านผู้อ่านคงถามอย่างนี้ ผมไม่เฉลยละครับ นำเรื่องราวมาเล่าให้ฟังซะเลย

ท่านที่ศึกษาพระพุทธศาสนามาบ้าง คงได้ยินชื่อคนสำคัญที่เป็นคฤหัสถ์สองท่านซึ่งมีบทบาทในการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาอย่างดี ท่านแรกคืออนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านที่สองคือนางวิสาขามหาอุบาสิกา

อนาถบิณฑิกเศรษฐี นามเดิมว่าสุทัตตะ เป็นนายแบงก์ที่ร่ำรวย ครั้งหนึ่งเดินทางไปทำธุรกิจที่เมืองราชคฤห์ จากเมืองสาวัตถี บ้านเกิดเมืองนอน ได้พบพระพุทธเจ้าและพระศาสนา กราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จมาโปรดเมืองสาวัตถี พระองค์ทรงรับอาราธนา

อนาถบิณฑิกเศรษฐีซื้อสวนของเจ้าเชตด้วยราคาแพงลิบลิ่ว เพื่อสร้างถวายพระพุทธองค์ แพงอย่างไรหรือครับ เจ้าเชตบอกว่าให้เอาเหรียญกหาปณะ (กษาปณ์) มาปูเต็มพื้นที่นั่นแหละ คือราคาของสวนละ เศรษฐีแกก็ใจถึง ให้ขนเงินออกมาปูได้ครึ่งสวน เจ้าเชตเห็นความจริงเช่นนั้นจึงร้องบอกว่า พอแล้วๆ เอาแค่นี้แหละ ที่เหลือขอให้ผมได้เป็นเจ้าภาพด้วย

Advertisement

ทั้งสองจึงช่วยกันสร้างวัดสำเร็จ ได้ตั้งชื่อว่า “พระเชตวัน” ตามนามของเจ้าของสวนเดิม พระพุทธองค์ก็เสด็จมาโปรดชาวเมืองสาวัตถี และส่วนมาก็จะประทับอยู่ที่พระเชตวันแห่งนี้แหละครับ

เศรษฐีแกมีลูกสาวหลายคน ล้วนแต่ถือศีลฟังธรรมตามอย่างบิดา มีเพียงลูกชายคนเดียวเท่านั้น ตอนแรกๆ ไม่เอาถ่าน แต่เศรษฐีมีวิธีชักจูงลูกเข้าวัด โดยจ้างให้ไปฟังธรรมวันละหลายกหาปณะ ลูกไปวัดเพราะอยากได้เงิน แต่ไม่ฟังธรรม นานเข้าพ่อได้ขึ้นค่าไปวัดให้แพงขึ้น โดยวางเงื่อนไขว่าให้จำพระธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงมาบอกวันละบท ด้วยความโลภอยากได้เงิน ลูกชายก็ทำตาม

เมื่อฟังธรรมบ่อยๆ เข้าก็ค่อยๆ ซาบซึ้งในธรรมะทีละเล็กละน้อย ในที่สุดแกก็ปฏิเสธไม่เอาค่าจ้างจากพ่อ เข้าวัดฟังธรรมด้วยศรัทธาจริงๆ คุณพ่อคุณแม่จะเอาวิธีการของท่านเศรษฐีไปอบรมลูกบ้างก็ได้นะครับ

Advertisement

กล่าวถึงเศรษฐีผู้เป็นพ่อ เนื่องจากมัวแต่อุปถัมภ์บำรุงพระสงฆ์ด้วยปัจจัยสี่ ไม่ค่อยได้มีเวลาฟังธรรมและตรึกตรองธรรมเท่าที่ควร มีความสงสัยอะไรก็ไม่กราบทูลถามพระพระพุทธองค์สักเท่าไหร่ เพราะท่านเศรษฐีเคารพรักในพระพุทธองค์มาก เกรงว่ารบกวน ถามอะไรมากๆ พระองค์จะทรงเหน็ดเหนื่อย (คือรักมาก ทะนุถนอมมาก ว่าอย่างนั้นเถิด) เศรษฐีจึงได้บรรลุธรรมเพียงชั้นต้นๆ คือเป็นพระโสดาบันเท่านั้น

ลูกสาวคนเล็กนามว่าสุมนา ป่วยหนักอาการน่าเป็นห่วง ท่ามกลางพ่อแม่และพี่น้องทั้งหลาย พ่อก็ละล่ำละลักถามว่า “เป็นอย่างไรบ้างลูก”

“ไม่เป็นอะไรมากดอก น้องชาย” เสียงลูกสาวตอบเบาๆ

“นี่พ่อนะลูก ไม่ใช่น้อง จำพ่อไม่ได้หรือลูก” พ่อแย้ง

“จำได้น้องชาย” ลูกสาวยังยืนยันเช่นเดิม

จากนั้นไม่นานนางก็สิ้นลมอย่างสงบ เศรษฐีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ถึงกับร้องไห้เสียงดังออกมา

วันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็ยังอดร้องไห้ถึงลูกสาวไม่ได้ พระพุทธองค์ตรัสว่า “อนาถบิณฑิกเอย สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง มีเกิดแล้วก็มีดับสลายไปเป็นธรรมดา สัตว์ทั้งหลายเกิดมาแล้วล้วนมีความตายเป็นที่สุด ท่านจะเศร้าโศกไปไย ท่านก็เป็นถึงอริยบุคคลแล้ว”

ขอแทรกตรงนี้สักเล็กน้อย อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ฟังธรรม จากพระพุทธองค์ที่เมืองราชคฤห์ เมื่อครั้งพบพระองค์ครั้งแรกโน้นได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลระดับต้นคือเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันนี้ยังคงมีความเศร้าโศกเสียใจเหมือนกับปุถุชนธรรมดาๆ เหมือนกัน

เศรษฐีกราบทูลว่า “ข้อนั้นข้าพระองค์รู้”

“รู้แล้วทำไมจึงไม่ระงับความเศร้าโศกเสียบ้าง” พระพุทธองค์ตรัสเตือน

“ข้าพระองค์เสียใจที่ลูกสาวของข้าพระองค์ตายในขณะที่จิตหลง ไม่มีความสงบ”

“รู้ได้อย่างไรว่าลูกสาวท่านตายจิตไม่สงบ”

“นางเพ้อเรียกข้าพระองค์ว่าน้องชายๆ ก่อนตาย พระเจ้าข้า”

“นางมิได้เพ้อดอก นางเรียกท่านเป็นน้องชาย ก็เพราะท่านเป็นน้องชายจริงๆ” พระพุทธองค์ตรัสแล้วให้อรรถาธิบายว่า “ลูกสาวของท่านก่อนตายได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคลระดับสกทาคามีแล้ว สูงกว่าท่านหนึ่งขั้น ถ้านับโดยระดับแห่งการบรรลุธรรม ท่านก็เป็น ‘น้อง’ นางหมายเอาเรื่องนี้ จึงกล่าวกับท่านอย่างนั้น”

เศรษฐีกราบทูลถามว่า “บัดนี้นางไปเกิดที่ไหน พระเจ้าข้า”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “นางไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว”

ได้ฟังดังนั้นเศรษฐีก็ปีติยินดีเป็นล้นพ้น ว่าลูกสาวของตนขณะยังมีชีวิตอยู่ก็อยู่ท่ามกลางญาติมิตรผุ้มีความสุขพรั่งพร้อมทุกอย่าง ตายไปแล้วก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตที่พรั่งพร้อมด้วยทิพยสมบัติ ท่ามกลางเหล่าเทพทั้งหลาย

พระพุทธองค์ตรัสเทศนาสั้นๆ เป็นคำประพันธ์ว่า

“ผู้ทำบุญไว้แล้ว ย่อมเพลิดเพลินในโลกนี้

ตายไปแล้ว ย่อมเพลิดเพลิน

เขานับว่าเพลิดเพลินทั้งในโลกนี้และปรโลก

เมื่อนึกถึงแต่คุณงามความดีที่ตนทำ ยิ่งเพลิดเพลินยิ่งขึ้น”

ครับ ทำดีไว้ไม่เสียหาย อยู่ก็สบาย ตายก็เป็นสุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image