เดินหน้าชน : ศึกแห่งศักดิ์ศรี : โดย เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2562 ถูกกำหนดให้เป็นวันเข้าคูหาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ได้ลงคะแนนเสียงเลือก ส.ส.คนใหม่ เพื่อแทนที่ “นวัธ เตาะเจริญสุข” จากพรรคเพื่อไทย หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบงการฆ่าอดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น โดยถูกศาลสั่งประหารชีวิต

เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจัดส่ง “ธนิก มาสีพิทักษ์” ลงสนามวัดพลังกับ “สมศักดิ์ คุณเงิน” ของพรรคพลังประชารัฐ โดยยังมีอีก 2 ผู้สมัคร “พ.ต.อ.กิตติกูร กาญจนสกุล” พรรคเสรีรวมไทย และ “สุทัศน์
ผลบุญ” พรรคพัฒนาชาติ

ขณะที่การต่อสู้ชิงเกมในสภาผู้แทนระหว่างพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านเป็นไปอย่างเข้มข้น ล่าสุดมีการชิงไหวชิงพริบทำให้สภาล่ม และการได้เสียงของอีกฝ่ายช่วยทำให้ครบองค์ประชุมโหวตในสภาดำเนินต่อไปได้ ล้วนแต่เป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่ฝ่ายผู้ได้เปรียบออกแบบมาเพียงเพื่อต้องการให้เกิดรัฐบาลผสม หวังลดการต่อรองของบรรดานักการเมือง แต่กลายเป็นว่า เข้าประชุมสภาทุกครั้งฝั่งรัฐบาลต้องนัดแนะกันให้ดี เพื่อให้มีชัยในการยกมือโหวตในเงื่อนไขภาวะ “เสียงปริ่มน้ำ”

อย่าลืมว่า รัฐบาลนี้จัดตั้งโดยอาศัยว่ามีคะแนนเสียงรวมเป็นสำคัญ มากกว่าจำนวน ส.ส.แต่ละพรรคได้รับ แม้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญออกแบบให้ทุกคะแนนต้องไม่หล่นน้ำ เอามาคิดเป็นสัดส่วน ส่งผลทำให้พรรคพลังประชารัฐมาที่ 1 ชนิดที่ไม่เคยหลักการคิดเช่นนี้มาก่อน

Advertisement

ดังนั้น การเลือกตั้งซ่อมแต่ละครั้ง จึงมีการทุ่มเท ทุ่มพลังของบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองและแกนนำเพื่อสะสมเสียง ส.ส.ไว้ในมือให้มากที่สุด โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่มี ส.ส.ถึง 8 จาก 10 คนในขอนแก่นเมื่อคราวเลือกตั้ง 24 มีนาคม ปีที่แล้ว เมื่อนวัธพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ไป พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้เกิดสัญญาณผิดพลาด ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการทำงานสนามใหญ่ในสภา แกนนำเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะรักษา ส.ส.เขต 7 ขอนแก่นต่อไป เหมือนที่เคยทำได้มาอย่างต่อเนื่อง

ในสนามเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น มีด้วยกัน 2 อำเภอ คือ อ.มัญจาคีรี กับ อ.หนองเรือ รวมผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 1.4 แสนคน จากผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 นวัธที่ติดคุกในเวลานี้ลงในนามทีมเพื่อไทย ชนะ สมศักดิ์ คุณเงิน ของพรรคพลังประชารัฐ ไปประมาณ 3 พันคะแนน ถือว่าชนะไม่ขาด โดยสมศักดิ์ของพลังประชารัฐที่ลงชิงหนดังกล่าวได้มา 2.6 หมื่นคะแนน ส่วนนวัธของเพื่อไทยได้เกือบ 3 หมื่นคะแนน

ทาง กกต.คำนวณเสร็จสรรพแล้วหวังว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิในเลือกตั้งซ่อม 71% จะรู้ผลนับทั้ง 271 หน่วย
เลือกตั้งตอนประมาณเที่ยงคืน

Advertisement

ส่วนการหาเสียงของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่บ้านหนองกุงใหญ่
ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา นับว่าดุเดือดเข้มข้นชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน โดย อ.หนองเรือ ถือเป็นจุดชี้ขาดที่มีผู้มีสิทธิลงคะแนนร่วม
7 หมื่นคะแนน คุณหญิงได้หยิบยกปัญหาของเกษตรกรทั้งข้าวและอ้อยที่เผชิญกับราคาตกต่ำส่งผลถึงปากท้อง พร้อมจะไปตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่นการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ นำไปช่วยภัยแล้ง จ่ายเยียวยาน้ำท่วม และช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนามีเงินไปต่อทุน

ที่แสบสันต์มากที่สุด เมื่อคุณหญิงบอกว่า “เอาแต่จ้องขโมยเสียงฝ่ายค้าน ทุกๆ อาทิตย์ก็จะมีแต่เรื่องทั้งงูเห่าและแจกกล้วย ทั้งการแย่งลูกพรรคของคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ใช้เงินใช้ทองกันเยอะแยะ นี่มันคือการย้อนยุคไปปีหนึ่งแปด”

ทำให้ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาโต้เรื่องรัฐบาลจ้องดึงเสียง ส.ส.ฝ่ายค้านมาสนับสนุนเสียงโหวตแลกกับผลประโยชน์ว่า “เป็นการกล่าวหาลอยๆ ทุกครั้งที่คุณหญิงสุดารัตน์จะกล่าวหารัฐบาล ก็มักมีการขู่ว่ามีหลักฐานชัดเจน แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป”

นับจากวันนี้ มีเวลาให้หาเสียงอีกไม่กี่วัน เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ทั้งพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐล้วน
ต้องการชัยชนะทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงไว้วางใจใคร

เสกสรรค์ กิตติทวีสิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image