นี่คือประเทศไทย

เกิดเหตุสองสามเรื่องในรอบสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเรื่องของความไม่เหมาะสม หรือไม่น่าเกิดขึ้นในสังคม ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม

เรื่องหนึ่ง คือเรื่องการพูดจาของนักบินสายการบินหนึ่งกับผู้โดยสารระดับนักการเมืองชั้นนำของประเทศ ที่บอกว่ามี “เหยื่อ” มา และความอย่างอื่นอีกสองสามข้อความ

ต่อมามีการยอมรับว่ากระทำการเช่นนั้นจริง ทั้งผู้รับผิดชอบสูงสุดของสายการบินนั้นยังกล่าว “ขอโทษ” ผู้โดยสารคนนั้น

ส่วนอีกข้อความหรืออีกคำหนึ่ง ไม่ว่าจะหมายความว่า “โหม่งโลก” หรืออย่างอื่น ทางการบินเขาว่าไม่สมควรทั้งสิ้น เพราะเป็นภาษาที่รู้กันว่ามีความหมายหลายนัย

Advertisement

การพูดหรือสื่อข้อความที่ไม่เหมาะสมขณะปฏิบัติหน้าที่ซึ่งเป็นวิชาชีพ มีจริยธรรม หรือจรรยาบรรณกำหนดไว้ทั้งสิ้น เพราะวิชาชีพไม่ใช่อาชีพที่จะทำอย่างไรก็ได้ แม้อาชีพทั้งหลายย่อมไม่สามารถพูดหรือแสดง ออกในเรื่องที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน เช่นการพูดจาหยาบคาย พูดจาเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหาย

การเป็นนักบิน หรือปฏิบัติหน้าที่ให้บริการผู้อื่นที่มีกิจลักษณะ เช่น นักบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ต้องทั้งปฏิบัติตนและแสดงตนด้วยความอ่อนน้อม ไม่ก้าวร้าว ยอมให้อภัยผู้โดยสารในบางเรื่อง ชี้แจงให้ผู้โดยสารทราบถึงการปฏิบัติตัวของผู้โดยสารเอง ทั้งยังมีอำนาจหน้าที่ระงับเหตุที่ผู้โดยสารก่อขึ้นด้วย

เรื่องที่เกิดขึ้น มิใช่เรื่องที่เพิ่งเกิด เมื่อก่อนขณะวงการเมืองร้อนแรง แบ่งพวกแบ่งฝ่าย พนักงานบริษัทการบินของรัฐยังแสดงออกถึงการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เช่นแสดงออกว่าจะไม่ปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบินนั้น หากมีผู้โดยสารคนนั้นคนนี้ที่เป็นนักการเมืองข้างที่ตนไม่ชอบโดยสารไปด้วย

Advertisement

กรณีที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าความไม่เป็นวิชาชีพ หรือมืออาชีพ ที่ต้องปฏิบัติกับผู้มาใช้บริการให้เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมีความคิดอย่างไรกับเรื่องการเมืองของบุคคลนั้น

เว้นแต่ผู้โดยสารคนนั้นขึ้นไปแสดงพฤติกรรมอันไม่สมควรบนเครื่องบิน หรือในสนามบินนั้น

เรื่องเช่นนี้ ดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นกับสายการบินต่างประเทศ เพราะในสายการบินต่างประเทศเชื่อว่าการรับผู้เข้าปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติหน้าที่ย่อมทราบดีว่าจะประพฤติปฏิบัติตนเช่นใด

เชอะ แต่กับผู้โดยสารพูดจาผิดไป เช่นมีระเบิดในกระเป๋ายังถูกตรวจค้นจับกุม

อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ทำให้คิดไปว่า คนไทยทำไม “บ้องตื้น” อย่างนี้

คือเรื่องสร้างสะพานลอยคร่อมเสาไฟฟ้า !!!???

เมื่อปรากฏภาพข่าวออกมาสู่สาธารณะ ฝ่ายก่อสร้างสะพานลอยอ้างว่า ฝ่ายการไฟฟ้านครหลวงไม่มารื้อถอนเสาไฟฟ้าตามกำหนด และล่าช้า

ฝ่ายการไฟฟ้านครหลวงอ้างว่า งานเยอะ รื้อถอนให้ไม่ทัน

ถามว่าเป็นไปได้อย่างไร ตอบว่าเป็นไปแล้ว

เรื่องประเภทนี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นแม้ครั้งเดียว แสดงว่าบรรดาผู้บริหารถึงผู้ปฏิบัติงานไม่มีสามัญสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่การงาน จึงทำให้เกิดความเสียหายขึ้นเป็นประจำ

เรื่องนี้ไม่มีความเห็น เกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว อาจเกิดขึ้นครั้งที่สองต่อไป เรื่องเกิดขึ้นแล้วแก้ตัวกันไป

ไม่มีการ “ปรับ” ไม่มีการ “ลงโทษ” แม้แต่ “ขอโทษ” ชาวบ้านผู้เสียภาษีให้ท่านผู้บริหารปฏิบัติหน้าที่

เรื่องสุดท้าย (อีกที) เป็นเรื่องที่นักสื่อสารมวลชนรุ่นโตคนหนึ่ง มีหน้าที่รายงานข้อมูลข่าวสารผ่านทั้งรายการโทรทัศน์และวิทยุ หลายครั้งรายงานข้อมูลข่าวสารผ่านหนังสือพิมพ์

ตั้งแต่มีการ “สื่อ” ผ่านระบบ “ไอที” หรือ “ไลน์” ท่านคงเห็นว่าสื่อสารได้รวดเร็ว จึงจัดการนำข้อความที่ได้รับมาสื่อออกไปทันที ไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจริงหรือเท็จ ให้สมกับเป็นสื่อสารมวลชนรุ่นโต

ปรากฏว่าหลายครั้งสื่อเท็จ แม้ต้นสังกัดบอกว่า “ผิด” ยังไม่แก้ไข อย่ารู้เลยว่าเป็นใคร เดี๋ยวเขาอาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image