คุณภาพคือความอยู่รอด ตอน เปลี่ยนแปลงก่อนถูกปรับออก : โดย วิฑูรย์ สิมะโชคดี

แต่เดิมนั้น เราต้องก้าวออกจาก “ฐานที่ตั้ง” เพื่อแสวงหาสิ่งต่างๆ คือ ต้องออกจากบ้านไปโรงเรียนเพื่อหาความรู้ ต้องออกจากบ้านไปซื้อหาสิ่งของจากห้างร้านต่างๆ อยากกินอาหารก็ต้องไปหาซื้อที่ร้านอาหารหรือตลาด ถ้าอยู่แต่ในบ้านก็คงจะไม่ได้อะไร โอกาสดีๆ ที่จะทำให้เราหูตาเปิดกว้างและพัฒนาก็จะมีน้อย เรื่องนี้เป็นจริงสำหรับการทำธุรกิจอุตสาหกรรมที่สอนให้ทุกคนต้องไปลงทุนข้างนอกด้วย

แต่ในปัจจุบันนี้ ทุกอย่างเข้ามาหาเราเองโดยที่เราไม่ต้องออกจากบ้านเลยก็ได้ เพราะเราหาความรู้ได้จากการค้นหาในเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบอินเตอร์เน็ตที่บ้าน เราสามารถสั่งซื้อสินค้าต่างๆ จากระบบออนไลน์ รวมถึงการสั่งซื้อของตามช่องทางต่างๆ ที่บ้านด้วย

ทุกวันนี้ โทรศัพท์มือถือและระบบการสื่อสารโทรคมนาคมจึงทำให้วิถีชีวิตของพวกเราเปลี่ยนไปจริงๆ

แต่ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมก็ยังไม่ยอมปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันกับเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนาอย่างที่มันควรจะเป็น

Advertisement

ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้พวกเราหลายคนจึงตกยุคสมัย และตามเทรนด์ไม่ทัน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ หลายๆ เรื่องเปลี่ยนไปเป็นความใจร้อน ความใจเร็วด่วนได้ในการติดต่อสื่อสารความไม่อดทน การรับประทานอาหารซองชงน้ำดื่มแทนอาหารหลัก รวมตลอดถึงแง่มุมในการคิดและการมองโลก

โลกวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนเริ่มนิยมซื้อของผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้การซื้อขายหน้าร้านค้าทั่วไปลดน้อยลง หลายกิจการจึงหันมาทำออนไลน์มากขึ้น

แต่รู้ทั้งรู้แบบนี้ เราก็ยังปรับตัวกันช้า หลายแห่งไม่ปรับตัวเองเลยก็มี ทั้งที่ยอดขายตกลงมาก เช่น ร้านขายสินค้าพื้นเมืองและ OTOP ของจังหวัดหนึ่ง เมื่อสองสามปีที่แล้วยอดขายและรายได้ดีมาก แต่ยอดขายรวมของปีนี้ลดลงมากกว่าเดิมมาก เพราะนักท่องเที่ยวลดน้อยลงและผู้คนส่วนใหญ่หันไปสั่งซื้อของทางออนไลน์ที่สะดวกกว่า แต่เราก็ยังอยู่ได้เหมือนเดิม เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Advertisement

ทุกวันนี้ ผู้ที่จบปริญญาตรีหลายสาขาก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง เพราะเริ่มหางานยากขึ้น และที่สำคัญก็คือ สังคมให้ความสำคัญกับปริญญาบัตรลดน้อยลง หลายองค์กรเริ่ม “ชิมลาง” ด้วยการรับพนักงานที่สามารถทำงานที่องค์กรต้องการได้จริง โดยไม่ได้รับพนักงานจากปริญญาบัตรที่มีอยู่

ขณะนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างรับรู้กันว่า กิจการประเภทต่างๆ ทุกวันนี้ได้ถูก “ทดแทนอย่างเฉียบพลัน” (Disruption) โดยเทคโนโลยี ความทันสมัย นวัตกรรม การแข่งขันที่รุนแรงและอื่นๆ

เราจึงต้องหมั่นถามตัวเองเพื่อความอยู่รอดว่า ถ้าหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวเราเปลี่ยนไปอันเนื่องมาจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะวิถีการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมที่เราคุ้นเคยก็เปลี่ยนไปแล้ว เราจะยังคงใช้วิธีคิดและวิธีการทำงานแบบเดิมๆ ได้จริงหรือ

ดังนั้น การทำงานในวันนี้ จึงไม่ใช่การรอ “พระเอกขี่ม้าขาว” มาช่วยให้องค์กรอยู่รอดปลอดภัย แต่เราจะต้องสร้าง “ทีมงาน” ที่ตื่นตัวและแข็งแกร่งที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงด้วยการหมั่นเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง หรือจะรอให้ถูกปรับออกจากเวทีการแข่งขัน ครับผม !

วิฑูรย์ สิมะโชคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image