| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คดีเครื่องตรวจระเบิดปลอมจีที 200 กลับมาหลอนบางคนในสังคมไทยอีกรอบ
หลังจากที่เคยทำให้ใครบางคนขนหัวลุกไปเมื่อปี 2556
ปีที่ เจมส์ แมคคอร์มิค ผู้ผลิตและขายเครื่องมือดังกล่าว ถูกศาลอังกฤษตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาขายเครื่องตรวจระเบิดปลอม
รวมทั้งสั่งยึดทรัพย์สินมูลค่า 7.9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 395 ล้านบาท
มาถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลอังกฤษออกคำสั่งเพิ่มเติมให้นำทรัพย์สินที่ยึดมาได้ของแมคคอร์มิค ออกชดเชยความเสียหายให้แก่ประเทศต่างๆ ที่เป็นผู้ซื้อ
จีที 200 จึงกลับมาอยู่ในความสนใจของคนทั่วไปอีกครั้ง
ในช่วงระหว่างปี 2550-2553 ประเทศไทยสั่งซื้อเครื่องจีที 200 ทั้งสิ้น 1,358 เครื่อง โดยหน่วยงานของรัฐ 13 แห่ง
ใช้เงินงบประมาณสำหรับการนี้ไปเกือบ 1,400 ล้านบาท
และถึงจะมีการดำเนินคดีในต่างประเทศไปแล้วนานปี การสอบสวนหรือการคลี่คลายความเคลือบแคลงกรณีนี้ในประเทศไทยก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหน
แม้จะมีการสอบสวนเรื่องดังกล่าวอยู่ในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ถึง 8 สำนวน
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ยังให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องจีที 200 เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ว่า
“เป็นคดีลึกลับ”
และถึงศาลอังกฤษจะชี้ชัดแล้วว่าจีที 200 ไม่สามารถตรวจหาระเบิดได้ตามคำโฆษณาแอบอ้าง
แต่
“หลักฐานก็ยังไม่พอเอาผิดใครได้”
ความสะเทือนของการรื้อฟื้นเรื่องจีที 200 ขึ้นมารอบใหม่
ดูได้จากปฏิกิริยาของผู้นำรัฐบาล ที่เป็นอดีตผู้นำกองทัพ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงดุดันว่า
“เขาตัดสินใครว่ายังไง ถ้าตัดสินผู้ค้าแล้วใครอีก ผู้ผลิต แล้วก็เยียวยาคนซื้อใช่หรือไม่ ให้ไปดูเขาฟ้องคนซื้อหรือเปล่าคิดให้เป็นบ้าง เพราะทุกคนเขาก็ซื้อกันทั้งโลก”
เมื่อถามว่า จะมีการตรวจสอบเพิ่มหรือไม่ นายกฯกล่าวเสียงดังต่อไปว่า
“จะตรวจสอบอะไรอีก เขางดใช้ไปตั้งนานแล้ว ทิ้งถังไปแล้วมั้ง เมื่อใช้ไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้ ถ้าโลกเขาใช้อยู่ก็ใช้ มันก็ใช้ได้ในระยะหนึ่ง
“แต่พอเขาพิสูจน์ว่าใช้ไม่ได้ ก็ไม่ใช้”
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้มีมติยุติการใช้งานไปแล้ว ถ้าจะใช้ต้องมีการยกเลิกมติ ครม.
เมื่อถามว่า ทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะเข้ามาตรวจสอบ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องให้ตรวจสอบ
“เราทำด้วยความโปร่งใส การจัดซื้อจัดหานั้นไม่ได้ทำด้วยคนเพียงคนเดียว รวมถึงยุทโธปกรณ์ทั้งหมด ต้องมีคณะกรรมการจัดซื้อจัดหาและคณะกรรมการตรวจรับ
“หากมีการทุจริต ก็ต้องลงไปดูในรายละเอียด”
ขณะที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของกองทัพดำเนินการศึกษารายละเอียด
ว่าจะสามารถเข้าไปร่วมเรียกร้องค่าชดเชยได้หรือไม่
ความสะเทือนจากกรณีจีที 200 นั้นมิได้อยู่เฉพาะในแวดวงรัฐบาล
แต่ในโลกที่เกือบทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในรูปดิจิตอลไฟล์ สะดวกและง่ายต่อการค้นหา
ผลสะเทือนจากคดีนี้ยังกระแทกไปถึง “คนดี” ที่เคยออกมาให้การรับรองว่าเครื่องมือดังกล่าวสามารถใช้การได้
ไม่ว่าจะเป็นระดับนักการเมืองใหญ่ หรือระดับคุณหมอใหญ่
มีการนำคำให้สัมภาษณ์ คลิปภาพ-เสียงออกมาช่วยตอกย้ำเตือนความจำ ว่าใครเคยพูดอะไรไว้
และวันนี้ “ออกตัวแรง” อย่างไร
ยิ่งการปฏิบัติต่อจีที 200 เป็นไปอย่างครึ่งๆ กลางๆ ในซีกของการเรียกร้องค่าเสียหายก็เพิ่งเริ่มดำเนินการ
ขณะที่ซีกของการทวงถามความรับผิดชอบจากผู้กำหนดนโยบายและผู้เกี่ยวข้องยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน
ตราบเท่าที่ความเป็นจริงและความรับผิดยังไม่ปรากฏ
จีที 200 ก็ยังคงเป็น “ปีศาจ” ที่คอยหลอกหลอนคนดีและผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับคดีอยู่ต่อไป
หลายครั้งและอีกหลายครั้ง
