ชาติก่อนผมเป็นผู้หญิง โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เขียนเรื่องคนอื่นขายมามากแล้ว คราวนี้เขียนเรื่องของตนเองขายกินบ้าง

ผมบวชเณรที่ต่างจังหวัดทางภาคอีสาน พอสอบได้เปรียญ 4 ประโยค หลวงพ่อที่วัดบ้านนอกก็ส่งผมเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ มาพักอยู่กับหลวงพี่มหาสมพร ที่วัดพิชัยญาติ วงเวียนเล็กสมัยนั้น (เดี๋ยวนี้ไม่มีวงเวียนเหลือแล้ว) เมื่อถึงเวลาเปิดเรียนก่อนเข้าพรรษา ก็เดินทางไปเรียนที่วัดทองนพคุณหรือวัดทองแอ๋ มีท่านเจ้าคุณกิตติสารโศภณ เป็นผู้สอน

หลวงพ่อเจ้าคุณกิตติสารโศภณ เป็นเปรียญ 9 ประโยค เป็นครูสอนบาลีชั้นสูงที่โด่งดังมาก สามารถสอนลูกศิษย์ให้สอบได้เปรียญ 9 ปีละมากๆ ท่านอุทิศเวลาสอนหนังสืออย่างเดียว กิจนิมนต์อย่างอื่นไม่รับเลย องค์เดียวเหมาสอนทั้ง 5 ชั้น คือเปรียญ 5-9 สอนทุกวันไม่มีวันหยุด เป็นที่มหัศจรรย์มาก

วันแรกที่ผมตามหลวงพี่สมพรไปเรียนนั้น พระเป็นร้อยนั่งเรียงกันที่ศาลาเล็กๆ ติดกับโบสถ์ ที่เหลือก็ไปนั่งในโบสถ์ นั่งฟังท่านอธิบายผ่านลำโพง

Advertisement

ที่เป็นเช่นนี้เพราะโรงเรียนปริยัติธรรมถูกไฟไหม้ ไม่มีที่เรียนจึงต้องอาศัยเรียนตามศาลาบ้าง ตามโบสถ์บ้าง

วันหนึ่งท่านเห็นผมตัวเล็กกว่าเพื่อน ท่านถามว่า

เณรเปี๊ยกมาทำไม ตามเขามาหรือ

Advertisement

ผมเรียนท่านว่า มาเรียนครับผม

เรียนประโยค 5 หรือ ท่านถามด้วยความไม่แน่ใจ

ครับผม ผมตอบเบาๆ พอได้ยิน

อืม…ตัวเล็กๆ แค่นี้เรียนถึงประโยค 5 ท่านพูดแล้วก็หันไปอธิบายต่อสักพักหนึ่ง แล้วก็ให้ คลาสเวิร์ก ให้ลูกศิษย์ทำในห้องแล้วก็เดินลงศาลาไป

ผมนั่งทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้วก็เดินลงศาลาไปทางหน้าโบสถ์จะกลับวัด หลวงพ่อยืนรออยู่ที่ประตูโบสถ์ถามว่า

เณรอยากมาอยู่ด้วยกันไหม

ผมไม่นึกว่าท่านจะถามอย่างนี้ ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่อ้อมแอ้มว่า

แล้วแต่หลวงพี่สมพร

หลวงพี่สมพรก็เป็นศิษย์เรียนบาลีกับท่าน ท่านจึงสั่งให้ไปเรียกมหาสมพรมาหาท่าน

ผมไปรายงานให้หลวงพี่สมพรทราบ หลวงพี่ร้องอย่างดีใจว่า

วาสนาของเณรแล้ว แล้วก็รีบห่มผ้าหายไป จนกระทั่งเย็นพอกลับมาที่วัดก็ร้องบอกเสียงดัง

เณร วันนี้ฤกษ์ดี ย้ายเสียวันนี้เลย

หลวงพี่จะไล่ผมไปไหน ผมร้องถาม

ไม่ใช่ไล่เว้ย หลวงพ่อเจ้าคุณฯ วัดทองฯ ท่านขอให้เณรไปอยู่กับท่าน วันนี้วันที่ 24 มิถุนายน วันปฏิวัติ ย้ายวันนี้เลย ชีวิตจะได้ปฏิวัติรุ่งเรือง ใบหน้ากลมโตอยู่แล้วยิ่งบานเป็นกระด้งด้วยความปีติ

ผมทราบทีหลังว่า หลวงพ่อเจ้าคุณฯ ไม่เคยรับเณรมาอยู่กับท่านเลย ท่านมีเด็กทำหน้าที่อุปัฏฐากอยู่คนเดียว คราวนี้ไม่รู้ท่านนึกอย่างไรจึงชวนผมไปอยู่ด้วย หลวงพี่สมพรเคยคิดจะนำผมไปฝากอยู่กับท่าน แต่เห็นท่านไม่เคยรับใครเลยจึงไม่กล้า พอท่านเอ่ยปากขอเสียเอง มีหรือจะไม่ร้องด้วยความดีใจว่า

เป็นวาสนาของเณรแล้ว

และก็เป็นวาสนาของผมจริงๆ ผมได้มาเป็นลูกของท่านที่ท่านรักมาก ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ทางภาษาบาลีจนสอบได้จบหลักสูตรตั้งแต่อายุยังน้อย

ท่านเคยถามผมบ่อยๆ ว่า ลูกเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ไหม ผมก็ตอบแบบพาซื่อว่า ตำราว่าเป็นเช่นนั้น

พ่อไม่ได้ถามตำรา พ่อถามความรู้สึกของลูกว่าลูกเชื่อไหม

ไม่รู้สิครับ ผมตอบ

แต่พ่อเชื่อ มันมีอะไรบางอย่างทำให้เชื่อ ท่านว่าอย่างนั้น

วันดีคืนดีท่านจะพาผมนั่งรถไปที่จังหวัดระยองบ้าง จังหวัดจันทบุรีบ้าง พอผ่านสถานที่แห่งหนึ่งท่านก็จะหันมาถามว่า แกมาถึงที่นี่แล้วรู้สึกอะไรไหม ผมก็ตอบว่า เฉยๆ นี่ครับ

ลองทำใจให้สงบซิ สถานที่นี้คล้อยๆ เคยมาอยู่ไหม หลวงพ่อย้ำถาม และมักจะถามเช่นนี้บ่อยครั้งจนผมผิดสังเกต

หลวงพ่อบอกว่า ผมชาติก่อนนั้นชื่อ สุภาพ ท่านจึงเปลี่ยนชื่อผมจากเดิมมาเป็นอักษร ส และให้ใช้ชื่อใหม่มาจนบัดนี้

ผมถามหลวงพ่อวันหนึ่งว่า รู้ได้อย่างไรว่าผมชื่อนี้ ท่านบอกว่าเรื่องมันมี แล้วก็เล่าเรื่องให้ผมฟังในวันหนึ่ง

ก่อนบวชเณร หลวงพ่อมีคู่รักอยู่คนหนึ่งชื่อสุภาพ เคยสัญญาว่าจะบวชไม่นานแล้วจะสึกมาแต่งงานกัน แต่พอบวชได้ไม่นานก็ตามพระผู้ใหญ่ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ไปกรุงเทพฯ เรียนนักธรรมบาลีจนเพลินลืมสึก

หลังจากบวชพระได้ห้าหรือหกพรรษาป่วยเป็นโรคประสาท หมอบอกให้พักการเรียนไปอยู่ต่างจังหวัดสักพัก ท่านก็เดินทางกลับมาบ้านเดิม ได้ทราบข่าวว่าสุภาพ อดีตคนรักป่วยเป็นวัณโรคอาการหนักใกล้สิ้นชีวิต แล้วรู้ว่าท่านมาอยู่วัดใกล้บ้าน ให้คนมานิมนต์ไปเยี่ยม ท่านก็เดินทางไปเยี่ยม

เธอปรารถนาว่าถ้าเกิดชาติหน้าขอให้ได้เกิดเป็นชายอยู่รับใช้ใกล้ชิด เพราะชาตินี้ไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกันแล้ว จากนั้นสองสามวันเธอก็สิ้นใจ

หลวงพ่อเล่าว่าท่านลืมเรื่องนี้มาเกือบสามสิบปี คืนก่อนจะพบผมฝันว่าเธอมาหา และวินาทีแรกที่เห็นหน้าผม ภาพที่เคยลืมเลือนไปเกือบสามสิบปีปรากฏขึ้นในมโนภาพอย่างชัดเจน ท่านจึงแน่ใจว่าเณรน้อยที่อยู่ต่อหน้าท่านคือคนที่ชื่อสุภาพ

ลูกไม่แปลกใจหรือว่า อยู่ๆ ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเลย ทำไมพ่อชวนลูกมาอยู่ด้วย ท่านถามหลังจากเล่าเรื่องจบ

เออ…จริงสินะ ทำไมอยู่ๆ ส้มหล่นทับจนเท้าเกือบบวมแน่ะ ผมคิดในใจ

จะจริงหรือไม่จริงไม่รู้ แต่ก็ขอขอบคุณเธอ…คุณสุภาพ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีโอกาสได้มาอยู่ในสำนักเรียนที่โด่งดัง มีอาจารย์เก่งๆ ดีๆ อย่างนี้หรอก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image