09.00 INDEX : เหตุใดการรุกกรณี ‘ธรรมกาย’ ของ ‘ดีเอสไอ’ จึงไม่ ‘คืบหน้า’

ปฏิบัติการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และพันธมิตรต่อคดีวัดพระธรรมกาย เหมือนกับเป็นปฏิบัติการ “เชิงรุก” ไม่ว่าจะเป็นการมอบหมายให้ นายมหิธร กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการกองกฎหมายไป “แจ้งความ”
ไม่ว่าจะเป็นการออกโรงของ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม โดยการร้องทุกข์ กล่าวโทษ ที่สภ.คลองหลวง ปทุมธานี
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเกมที่ดิน “เวิลด์ พีซ” เขาใหญ่
ทั้งหมดนี้ทำให้วัดพระธรรมกายและบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ต้องเป็นฝ่าย “ตั้งรับ” อย่างแน่นอน
แต่ถามว่ามีความคืบหน้าหรือไม่ อย่างไร

“หมายจับ”ที่ออกมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมเป็นอย่างไร “หมายค้น”ที่ออกมาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนเป็นอย่างไร
พระเทพญาณมหามุนี มอบตัวหรือยัง
จับ พระเทพญาณมหามุนี ได้แล้วหรือยัง
ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ ตรงนี้ต่างหากที่ทรงความหมาย

บทบาทของกรมสอบสวนคดี(ดีเอสไอ)ในกรณีของพระเทพญาณมหามุนีเริ่มเดินเหมือนกับกรณีของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์มากขึ้นเป็นลำดับ
ทั้งๆที่ “มติ” มหาเถรสมาคมออกมาตั้งแต่เดือนมกราคมทำไมจึงไม่มีอะไรคืบหน้า
ยังอยู่ใน “แฟ้ม”ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ยังไม่เดินทางจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเข้าสู่ครม.
กลายเป็น “คำถาม” ในทางสังคม
และกลายเป็น “คำถาม” มากยิ่งขึ้นเมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เข้าสอบเรื่อง”รถโบราณ”
เป้าหมายเพื่ออะไร”สังคม”รู้
รู้เหมือนกับบทบาทของ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”ในกรณีวัดพระธรรมกาย
คนละเรื่อง แต่”เป้าหมาย”เดียวกัน

การแจ้งความต่อคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย การเปิดประเด็นว่าด้วยรถโบราณวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
กระบวนท่าเหมือนกับเป็น”การรุก”
แต่เอาเข้าจริงๆกลับมิได้เป็นการรุก หากแต่เป็นการเปิดประเด็นสร้างเรื่องใหม่
เหมือนกับสร้างความชอบธรรมให้กับ”เรื่องเก่า”

Advertisement

ถามว่ามติของมหาเถรสมาคมในเรื่องสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คืบหน้าหรือไม่
ตอบได้ว่า ไม่
ถามว่า”หมายจับ”และ”หมายค้น”บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่
ตอบได้ว่า ไม่
“การรุก”ทำท่าว่าอาจกลายเป็น”การรับ”โดยมิได้ตั้งใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image