⦁…เสนอกันยกใหญ่ให้ “พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 63” มีทางออก เพื่อเอาเงินมาใช้ได้เต็มที่ “กำลังซื้อของประเทศกำลังวิกฤต” ไม่มีใครอยากให้ “เรื่องไม่เป็นเรื่อง กลายเป็นอุปสรรคซ้ำเติม” ทว่าเมื่อ “เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย” คนที่แนะให้คนอื่นทำจึงดูกล้าหาญชาญชัยกว่า “คนที่ต้องลงมือทำ” ใครจะอยากเอา “ขาข้างหนึ่งแหย่ไปในคุก” การตีความกฎหมายแบบตะแบงให้รอดเฉพาะหน้า คือการ “ขึ้นหลังเสือ” ซึ่งทำให้อยู่อย่าง “เสียวเมื่อนึกถึงวันต้องลงมา”
⦁…ที่น่าเห็นใจสุดเป็น อุตตม สาวนายน ในฐานะขุนคลังที่มีหน้าที่จัดเตรียมเงินมาเพื่อให้ “รัฐบาลใช้จ่าย” ความจำเป็นต้องอาศัย “ชิม ช้อป ใช้” โครงการแจกเงินให้ประชาชนเอาไปใช้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อไปหมุนเศรษฐกิจ ที่ “เฟส 4” ต้องเร่งเริ่ม สภาพผันเงินจากส่วนต่างๆ กันหัวหมุนจึงเกิดขึ้น
⦁…ก่อนหน้านี้เป็น “ผู้มีเกียรติที่สุด” ที่ทุกประเทศในโลก “ยินดีต้อนรับ” แต่วันนี้ “ไวรัสอู่ฮั่น” ระบาดหนัก นักท่องเที่ยวจีนกลับกลายเป็น “ผู้น่ารังเกียจ” ทุกประเทศปิดประตูใส่หน้า ไม่ยอมให้ข้ามแดน โลกที่ “มิตรไมตรีตัดสินกันด้วยผลประโยชน์” ท่าทีปฏิเสธจึงแข็งกร้าว มากกว่า “อธิบายชี้แจงกันด้วยความเห็นอกเห็นใจ” ยิ่งอัตราเพิ่มของ “คนป่วย คนตาย” สูงขึ้นรวดเร็ว ยิ่งพูดกันรู้เรื่องยาก
⦁…เพราะ “วิกฤตเศรษฐกิจหนักหนา” และ “ทางแก้” ไม่มีแนวโน้มที่จะโพล่งมาให้คิดออก นอกจากอาศัย “รายได้นักท่องเที่ยว” เมื่อ “ไวรัสอู่ฮั่น” กดดันให้ต้องปิดประตูใส่หน้า “คนจีน” ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สูงสุด อาการเงอะงะจึงเกิดขึ้นกับ “ผู้บริหารประเทศไทย” ทางหนึ่งก็ดูน่าเห็นใจ แต่ท่าทีซ้ำๆ ในทาง “อยากจะโชว์ให้เห็นความเก่งของตัวเอง” ในทางที่ไม่มีอะไรสะท้อนให้สัมผัสได้ถึง “หัวใจห่วงใยประชาชน” ผลที่ตามมาจึง “เห็นใจไม่ลง”
⦁…เดินสายรับกำลังใจจาก “เด็กรุ่นใหม่” ก่อนหน้านั้นที่ “โรงเรียนเตรียมทหาร” หลานๆ ต้อนรับด้วยเพลง “ใจสู้หรือเปล่า ไหว ไหมบอกมา” ทำให้หัวใจพองโต ตามด้วยกระทรวงศึกษาฯจัดให้ “เซอร์ไพรส์สภานักเรียน” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ้มหน้าบาน ละความคิดจากเรื่องราวใน “กระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก” ที่รุมถล่มด้วยภาษาแรง และขยายวงกว้างขึ้นไปได้บ้าง น่าสนใจยิ่งว่าระหว่างท่าทีของ “นักเรียนเตรียมทหาร” และ “สภานักเรียน” กับ “คนรุ่นใหม่โลกออนไลน์” อันไหนเป็น “ความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงของคนรุ่นใหม่”
⦁…ยิ่งนับวันยิ่งชัดเจนว่า “คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.” สภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่เป็น “กลไกสำคัญในการจัดการปัญหาเรื้อรังของประเทศ” ไม่มีทางที่จะทำหน้าที่ได้ ที่นั่งถอนใจ และเห็นตำตาว่าอะไรเกิดขึ้นคือ ชวน หลีกภัย ที่เข้าไปร่วมดูการทำงานด้วย คำถามก็คือเมื่อต้องเลือกให้ฝ่ายหนึ่งทำหน้าที่ อีกฝ่ายหนึ่งพ้นออกไประหว่าง ประธาน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส กับ สิระ เจนจาคะ และ ปารีณา ไกรคุปต์ สภาผู้แทนราษฎรควรเลือกอย่างไร ถ้า “หมดปัญหาหาทางอก” น่าจะสำรวจความเห็นประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจ ว่าจะทำงานกันอย่างไรให้ “คุ้มกับเงินเดือน”
⦁…มองโลกในแง่ดี ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพลังประชารัฐ บอก “อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นโอกาสชี้แจงประชาชน” ย้ำ “ไม่ได้ล้มเหลว แค่ยังประชาสัมพันธ์ไม่มากพอ” ทำให้น่าคิดว่าที่ผ่านมา “ใครไปห้ามประชาสัมพันธ์ให้เพียงพอ” จนต้องรออาศัย “ฝ่ายค้านเปิดประเด็นให้ชี้แจง” ทีมโฆษกทั้งหลายไม่สงสัยตัวเองกันบ้างหรือว่า “ทำงานกันอย่างไร” รัฐบาลถึงถูกถล่มมากมายขนาดนี้
⦁…สมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรฯ จัดงาน “คืนสู่เหย้า วปอ.65 ปี ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ณ สนามหลังอาคารพฤกษชาติพระทรงชัย สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เริ่มลงทะเบียน 14.30 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ พ.อ.นิรุจดวงปัญญา 0-9098-02706 โทรสาร 0-2277-2650
ชโลทร